วันนี้ (22 มิถุนายน) พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีที่กลุ่มนายตำรวจที่ตกเป็นผู้ต้องหาคดีรีดทรัพย์ผู้ต้องหาเว็บไซต์พนัน 140 ล้านบาท ยื่นร้องต่ออธิบดีอัยการสืบสวนสอบสวนว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม หลังถูกแจ้งข้อกล่าวหาว่าเป็นการสืบสวนสอบสวนโดยมิชอบของชุดสอบสวนที่มี พล.ต.อ. สุรเชษฐ์เป็นหัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวน โดยระบุว่าขั้นตอนการแจ้งข้อกล่าวหาต้องแจ้ง พ.ร.บ.อุ้มหายฯ
ด้าน พล.ต.อ. สุรเชษฐ์กล่าวว่า เป็นเรื่องเข้าใจผิดของกลุ่มตำรวจที่ตีความข้อกฎหมายไปอีกแนวทางหนึ่ง เนื่องจากกลุ่มผู้ต้องหาไม่เห็นสำนวนทั้งหมด อีกทั้งชุดสอบสวนยังได้แจ้งข้อหาปล้นทรัพย์อีกหนึ่งข้อหา ซึ่งยืนยันว่าการดำเนินการของพนักงานสอบสวนเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมายทุกอย่าง โดยได้แจ้งความตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ และมาตรา 149 เป็นเจ้าหน้าที่รัฐเรียกรับผลประโยชน์ไปแล้ว
ส่วน พ.ร.บ.อุ้มหายฯ หลังจากนี้จะต้องหารือร่วมกับอัยการ เพราะยังมีบางส่วนของข้อกฎหมายที่อาจจะไม่เข้าข่ายการกระทำความผิด ซึ่งที่ผ่านมาชุดทำงานได้ทำคดีบ้านเด็กที่จังหวัดสระบุรี ซึ่งเข้าข่าย พ.ร.บ.อุ้มหายฯ เป็นคดีแรก ส่วนคดีรีดทรัพย์ 140 ล้านบาท จะรับเป็นคดีที่ 2 ในประเทศ หากครบองค์ประกอบในการกระทำความผิด ซึ่งเรื่องนี้จะต้องหารือกับอธิบดีอัยการอีกครั้งหนึ่ง
พล.ต.อ. สุรเชษฐ์กล่าวว่า การที่มี พ.ร.บ.อุ้มหายฯ ประกาศออกมา ยังพบว่าตำรวจยังต้องทำความเข้าใจเรื่องนี้เป็นพิเศษเพราะเป็นกฎหมายใหม่ แต่ถึงแม้กลุ่มนายตำรวจจะไปร้องอธิบดีอัยการก็สามารถทำได้ เพราะเป็นสิทธิในการต่อสู้คดี
เบื้องต้นการทำคดีรีดทรัพย์ 140 ล้านบาท ยังไม่เข้าข่าย พ.ร.บ.อุ้มหายฯ พนักงานสอบสวนจึงยังไม่แจ้งความกับตำรวจชุดดังกล่าว โดยสัปดาห์หน้าตำรวจจะออกหมายจับผู้ที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม
ส่วน พล.ต.ต. กัมพล ลีลาประภาภรณ์ อดีตผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี ซึ่งจะชี้แจงเป็นลายลักษณ์อักษรภายใน 5 วัน ขณะนี้ยังไม่ส่งคำให้การมาให้พนักงานสอบสวน ซึ่งจะครบกำหนดในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ (26 มิถุนายน)
