วันนี้ (21 มิถุนายน) จาตุรนต์ ฉายแสง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เดินทางมารายงานตัวเข้าเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และรับบัตรประจำตัว พร้อมเผยว่า เหตุที่มาในวันนี้คนเดียวเพราะวันอื่นอาจไม่สะดวก มาได้ก็มาก่อน แล้วจะรีบกลับไปร่วมการสัมมนา ส.ส. ของพรรคเพื่อไทย โดยที่มาวันนี้ไม่ได้ถือฤกษ์อะไร เป็นการมาตามสะดวก
จาตุรนต์ระบุว่า ครั้งนี้เป็นการเดินทางมารัฐสภาแห่งนี้ครั้งแรกในชีวิตนี้ ไม่เคยเดินทางมาเลยตั้งแต่ก่อสร้างอาคารนี้มา ยอมรับว่ารู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย และดีใจที่ได้กลับมาทำหน้าที่ผู้แทนราษฎรอีกครั้งในรอบ 17 ปีหลังถูกตัดสิทธิทางการเมือง เพราะระบบการเมืองที่ผิดเพี้ยน เกิดการรัฐประหาร 2 ครั้ง อยู่พรรคการเมืองเพิกถอนสิทธิทางการเมืองทำให้ไม่ได้เป็น ส.ส.
“กลับมาเป็น ส.ส. ครั้งนี้อยู่ในสภาพการณ์ที่ต่างออกไปจากเดิม เพราะการทำหน้าที่ต่อไปนี้น่าจะเข้มข้น และทำอะไรได้มากกว่าสมัยก่อน การอภิปรายในสภาน่าจะเปลี่ยนไปพอสมควร เพราะมีการใช้ข้อมูลทำหน้าที่เป็นปากเสียงให้กับประชาชนได้ต่างออกไปจากเดิม วันนี้จะต้องมาเริ่มจากเรียนรู้ว่าห้องไหนอยู่ตรงไหน”
ส่วนการสัมมนาของพรรคในวันนี้จะเป็นการประชุมปฐมนิเทศ เรื่องการทำหน้าที่ของ ส.ส. ซึ่งตนได้แบ่งปันประสบการณ์เก่าๆ ของตนให้กับ ส.ส. ที่เพิ่งมารับหน้าที่ หรือเพิ่งเป็นมาไม่นาน
ส่วนกรณีแชตหลุดจาก ส.ส. เพื่อไทย เรื่องความเห็นต่างในการวางตัวประธานสภาผู้แทนราษฎร จะมีการเคลียร์ใจกันอย่างไรหรือไม่ในการประชุมวันนี้ จาตุรนต์ย้ำว่า เป็นการปฐมนิเทศ จะมีการแลกเปลี่ยนความเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์จัดตั้งรัฐบาล หรือเรื่องประธานสภาหรือไม่ คาดว่าน่าจะมีบ้าง แต่คงจะให้ผู้ทำหน้าที่ประสานงานจัดตั้งรัฐบาลได้รับฟังความเห็นในที่ประชุม แต่จะไม่ได้เป็นการประชุมเพื่อหามติ
“ผมไม่ทราบข้อเท็จจริง เพราะปกติผมคุยไลน์ก็ไม่เคยหลุด จึงไม่ทราบว่าครั้งนี้เกิดอะไรขึ้น”
ขณะที่ข้อความของคนกลุ่มหนึ่งในพรรคเพื่อไทยที่แสดงความไม่เห็นด้วยที่พรรคก้าวไกลจะได้ตำแหน่งประธานสภา ตนก็เห็นตามที่เป็นข่าว และวันนี้คงมีโอกาสรับฟังข้อเท็จจริง และทราบจากแกนนำแจ้งตน มีความเห็นว่า พรรคที่ได้ ส.ส. เป็นอันดับ 1 ควรได้ตำแหน่งประธานสภา ขณะที่พรรคอันดับ 2 ขอตำแหน่งรองประธานสภา 2 เก้าอี้ และจะหารือกันเร็วๆ นี้ เพราะรับรอง ส.ส. ครบ 100% แล้ว สำหรับการแลกเปลี่ยนความเห็นในการสัมมนาวันนี้ หวังว่าจะหาทางออกทางแก้ปัญหาที่เป็นประโยชน์กับการจัดตั้งรัฐบาล
ส่วนเรื่องที่สมาชิกบางคนเสนอให้ฟรีโหวตประธานสภา จาตุรนต์ชี้ว่าเป็นการลงมติลับอยู่แล้ว จึงไม่รู้ว่าใครลงให้ใคร แต่เรื่องแบบนี้น่าจะมีมติของพรรคให้แสดงท่าทีในทิศทางเดียวกัน เพื่อแสดงให้เห็นนโยบายและจุดยืน
และหากสุดท้ายไม่ยอมกันจริงๆ จนมี ส.ส. แตกแถว จาตุรนต์ระบุว่า ต้องพูดคุยหารือ โดยมีจุดหมายตรงกันคือ 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลตามฉันทมติประชาชน
ต่อกระแสข่าวที่ระบุว่า บางพรรคการเมืองอาจเสนอชื่อ สุชาติ ตันเจริญ เป็นประธานสภา อาจจะส่งผลกับข้อตกลงที่มีไว้กับพรรคก้าวไกลหรือไม่ จาตุรนต์ระบุว่า พรรคการเมืองต้องมีการพูดจาหารือกัน ให้ได้ข้อสรุปในทางที่คิดว่าเป็นประโยชน์ต่อการจัดตั้งรัฐบาล ต้องส่งเสริมการจัดตั้งรัฐบาลเป็นเรื่องหลัก ตามหลักการและตามความหวัง พรรคการเมืองจะต้องลงมติไปในทิศทางเดียวกัน ตามที่ได้นำเสนอนโยบายและจุดยืนกับประชาชนไว้ แม้จะเป็นการลงมติลับก็ตาม