Transformers: Rise of the Beasts ภาพยนตร์ลำดับที่ 7 ของแฟรนไชส์หนังแอ็กชันฟอร์มยักษ์อย่าง Transformers โดยในภาคนี้ได้ Steven Caple Jr. ที่เคยฝากผลงานเรื่องเยี่ยมมาแล้วใน Creed II (2018) มานั่งแท่นผู้กำกับ พร้อมด้วย Joby Harold จาก Army of the Dead (2021) และ Darnell Metayer, Josh Peters จาก BMF (2021) มารับหน้าที่เขียนบท
Transformers: Rise of the Beasts จะพาเราไปติดตามเรื่องราวของ Noah Diaz (Anthony Ramos) หนุ่มตกงานที่ต้องคอยดูแลน้องชาย และ Elena Wallace (Dominique Fishback) นักโบราณคดีสาวไฟแรง ที่ดันเข้าไปพัวพันกับความขัดแย้งของหุ่นยนต์เอเลี่ยน โดยมี Optimus Prime (Peter Cullen) ผู้นำกลุ่ม Autobot และ Optimus Primal (Ron Perlman) ผู้นำกลุ่ม Maximal ที่ต้องหาวิธีหยุดยั้งการรุกรานของ Scourge (Peter Dinklage) ก่อนที่บอสใหญ่อย่าง Unicron (Colman Domingo) จะเดินทางมากลืนกินโลก
แม้ว่า Transformers จะเป็นอีกหนึ่งไลน์ของเล่นสุดคลาสสิกจาก Hasbro และ Takara ซึ่งได้รับการต่อยอดเป็นฉบับคอมิกและแอนิเมชันชื่อดังที่ใครหลายคนเติบโตมาพร้อมกัน แต่เราคงปฏิเสธไม่ได้จริงๆ ว่าภาพยนตร์เรื่อง Transformers (2007) ภายใต้การกำกับของ Michael Bay น่าจะเป็นผลงานที่ทำให้ชื่อของ Optimus Prime หรือ Bumblebee กลายเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกอย่างกว้างขวางมากขึ้นกว่าเดิม แถมยังสามารถกวาดรายได้รวมทั่วโลกไปได้สูงกว่า 709 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่ขณะเดียวกัน ภาพยนตร์ภาคต่อของ Transformers เรื่องต่อๆ มาซึ่งมีเรื่องราวที่ดูใหญ่โตเกินไป ก็เริ่มได้รับกระแสวิจารณ์ในแง่ลบมากขึ้นเรื่อยๆ
กระทั่งภาพยนตร์เรื่อง Bumblebee (2019) ของผู้กำกับ Travis Knight ที่พยายามลดสเกลของเรื่องให้เล็กลง และโฟกัสไปที่ความสัมพันธ์ระหว่างวัยรุ่นสาวและหุ่นยนต์เอเลี่ยนเป็นหลัก พร้อมกับการปรับดีไซน์ของหุ่นยนต์ให้มีความใกล้เคียงกับของเล่นและคอมิกต้นฉบับ ก็ช่วยให้ Transformers กลับมาเข้ารูปเข้ารอยมากขึ้นจนได้รับเสียงชื่นชมจากนักวิจารณ์และผู้ชมทั่วไปอย่างล้นหลาม
และปีนี้ Optimus Prime และเหล่า Autobot ก็กลับมาบู๊จัดหนักกันอีกครั้ง พร้อมกับหยิบนำกลุ่มตัวละครใหม่ๆ อย่าง Maximal และ Terrorcon เข้ามามีบทบาท เพื่อเตรียมขยายเรื่องราวของหุ่นแปลงร่างให้กว้างใหญ่กว่าเดิม
ซึ่งจุดเด่นประการแรกที่เราคิดว่า Transformers: Rise of the Beasts นำเสนอได้น่าสนใจ คือการออกแบบฉากแอ็กชันที่ค่อนข้างกลมกล่อม โดยเฉพาะฉากไคลแมกซ์ของเรื่องที่ค่อยๆ ไต่ระดับความเวอร์วังให้สูงขึ้นเรื่อยๆ จนเราตื่นเต้นไปกับเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น หนึ่งในนั้นคือฉากการปรากฏตัวสุดเท่ของ Bumblebee ที่แม้เราจะเคยเห็นมาแล้วในตัวอย่าง แต่ก็ยังทำให้เรารู้สึกว้าวได้เช่นเดิม
ส่วนในแง่เนื้อหา ส่วนตัวผู้เขียนแอบรู้สึกชื่นชอบภาค Bumblebee มากกว่า อาจเพราะด้วยเรื่องราวของ Bumblebee ค่อนข้างจะเน้นหนักไปที่ปมปัญหาของเด็กสาวอย่าง Charlie (Hailee Steinfeld) และความสัมพันธ์ระหว่างเธอและ Bumblebee ที่ค่อยๆ แน่นแฟ้นมากขึ้น เราจึงสามารถเชื่อมโยงกับตัวละครได้มากกว่า และมีความรู้สึกร่วมไปกับตัวละครได้ง่ายกว่า
ขณะที่ Transformers: Rise of the Beasts เรากลับรู้สึกเฉยๆ ไม่ได้ชอบมากนัก แต่ก็ไม่ได้รู้สึกว่าน่าเบื่อเกินไป กล่าวคือตัวภาพยนตร์มีกลวิธีนำเสนอที่น่าสนใจ กระชับ ไม่ยืดเยื้อ และสามารถชวนให้เราติดตามการเดินทางของตัวละครไปได้ตลอดทั้งเรื่อง รวมถึงมีปมปัญหาของตัวละครที่ถูกปูไว้อย่างน่าสนใจทีเดียว เริ่มตั้งแต่ Optimus Prime กับความรับผิดชอบที่เขาต้องแบกรับในฐานะผู้นำ หรือ Elena Wallace นักโบราณคดีสาวที่มีบทบาทสำคัญในการช่วยเหล่า Autobot ตามหาอุปกรณ์บางอย่างซึ่งน่าสนใจไม่แพ้กัน
แต่ตัวภาพยนตร์กลับนำเสนอปมปัญหาเหล่านี้เพียงผิวเผินเท่านั้น รวมถึงมีการคลี่คลายปมปัญหาของตัวละครอย่างเรียบง่ายเกินไปสักหน่อย โดยเฉพาะพาร์ตของ Noah Diaz ที่เราแอบรู้สึกว่าไม่น่าสนใจ ส่วนตัวผู้เขียนจึงแอบเสียดายที่ภาพยนตร์นำเสนอประเด็นเหล่านี้ออกมาไม่ชัดเจนมากนัก
ในภาพรวมแล้ว ผู้เขียนคิดว่า Transformers: Rise of the Beasts นับว่าเป็นการ ‘ตั้งหลักใหม่’ ของแฟรนไชส์ Transformers ที่สร้างความตื่นเต้นให้เราได้ดีทีเดียว แม้ว่าภาพยนตร์จะมีข้อสังเกตในแง่เนื้อหาอยู่บ้าง แต่ข้อสังเกตดังกล่าวก็ถูกชดเชยด้วยฉากแอ็กชันที่สนุกสนาน รวมถึงการทิ้งประเด็นสำคัญไว้ในฉากสุดท้ายของเรื่องที่ชวนให้เราติดตามต่อไปว่าอนาคตของ Transformers จะถูกขยับขยายเรื่องราวให้กว้างใหญ่มากขึ้นอย่างไร
Transformers: Rise of the Beasts เข้าฉายอย่างเป็นทางการแล้ววันนี้ ในโรงภาพยนตร์
รับชมตัวอย่างได้ที่:
ภาพ: Paramount Pictures
อ้างอิง:
