วานนี้ (29 พฤษภาคม) นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ในรายการ THE STANDARD NOW ดำเนินรายการโดย อ๊อฟ-ชัยนนท์ หาญคีรีรัตน์ ถึงดีลลับรัฐบาลใหม่ โดยไม่มีพรรคก้าวไกลที่มีคะแนนมากเป็นอันดับ 1 ว่า
พรรคเพื่อไทยขอปฏิเสธดีลลับจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งจริงๆ แล้ว ในวิถีทางการเมือง มีการตั้งประเด็นเรื่องการจัดตั้งรัฐบาลก่อนการเลือกตั้งแล้ว อีกทั้งพรรคเพื่อไทยและก้าวไกล ได้ถูกยึดติดไว้กับคนไทย เสมือนการผูดมัดจากประชาชน ยิ่งกว่าการลงนามข้อตกลงร่วม 8 พรรคการเมือง (MOU) และ Advance MOU หรือการยกระดับของประชาธิปไตยให้เข้มแข็งกว่าเดิม
ฉะนั้น สิ่งที่ประชาชนต้องการที่สุด คือการได้รัฐบาลฝ่ายประชาธิปไตย โดยปราศจากรัฐบาล 2 ลุง หรือ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่าจับตามองคือ การที่ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไม่เคยประกาศยอมรับความพ่ายแพ้แม้แต่ครั้งเดียว ดังนั้น ไม่สามารถประมาทได้ เนื่องจากฝั่งอนุรักษ์นิยม และ พล.อ. ประยุทธ์ อาจจัดตั้งรัฐบาลแข่ง ซึ่งยังมีความเป็นได้ และต้องระมัดระวังให้ดี
“ในฐานะที่เรา (พรรคเพื่อไทย) ถูกมัดจากประชาชนซึ่งแยกกันไม่ได้ ใช้คำว่ามัดเลยนะครับ เพราะยิ่งกว่า MOU และ Advance MOU เพราะถือว่า 25 ล้านเสียง โดย 14.2 ล้านเสียงจากก้าวไกล และ 10.8 ล้านเสียงจากเพื่อไทย ได้มอบมาจากประชาชนให้ 2 พรรคนี้ เพื่อต้องการฝ่ายเสรีประชาธิปไตย และจัดตั้งรัฐบาลซึ่งมีจุดมุ่งหมายเดียวกันคือ หยุดอำนาจของรัฐบาลที่เป็นอำนาจทหาร สิ่งเหล่านี้เสมือนเป็นอาณัติของประชาชนที่ต้องการแก่พวกเรา (พรรคเพื่อไทยและก้าวไกล)” นพ.ชลน่านกล่าว
ขณะที่ตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร นพ.ชลน่านมองว่า ต้องดูที่มาที่ไป เนื่องจาก ประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคฯ ได้พูดว่า ตนเองเหมาะสมในการเป็นประธานสภา อย่างไรก็ตาม ต้องมาปรึกษาหารือกับพรรคก้าวไกล โดยต้องทำให้เป็นทางการ เพราะตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ยังไม่เคยมีการเจรจาอย่างเป็นทางการสักครั้งเดียว ซึ่งจะต้องมีตัวแทนจากทั้ง 2 พรรคในการพูดคุย
ด้านตำแหน่งรัฐมนตรี นพ.ชลน่านกล่าวว่า ยังไม่ได้มีการพูดคุยกันแม้แต่น้อย ฉะนั้น ถ้ามีคนมาพูดว่าพรรคเพื่อไทยวางตำแหน่งรัฐมนตรีแล้ว ถือว่าเป็นการกล่าวหา และไม่เป็นข้อเท็จจริงแม้แต่น้อย
ทั้งนี้ นพ.ชลน่านยืนยันอีกครั้งว่า พรรคเพื่อไทยสนับสนุน พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศไทย ซึ่งสอดคล้องกับคำพูดของ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย และ สุทิน คลังแสง ว่าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ที่ต้องการให้พิธาเป็นนายกฯ และพรรคก้าวไกลจัดตั้งรัฐบาล
