บราซิลประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน 180 วัน หลังตรวจพบไข้หวัดนกระบาดในหมู่นกป่า

การ์ลอส ฟาบาโร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรของบราซิลลงนามรับรองการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินว่าด้วยสาธารณสุขสัตว์เป็นระยะเวลา 180 วัน หลังทางการตรวจพบไข้หวัดนกระบาดในหมู่นกป่า เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคมที่ผ่านมา

โดยการติดเชื้อไข้หวัดนกสายพันธุ์ย่อยของ H5N1 ในหมู่นกป่า อาจไม่นำไปสู่การแบนการค้าขายนกหรือสัตว์ปีกตามแนวทางขององค์การอนามัยโลก (WHO) แต่อย่างไรก็ตาม เคสที่พบการติดเชื้อไข้หวัดนกในฟาร์มสัตว์ปีกนั้น โดยทั่วไปแล้วอาจมีความจำเป็นต้องกำจัดสัตว์ปีกนั้นทั้งฟาร์ม และมีการเพิ่มข้อจำกัดทางการค้าจากบรรดาประเทศผู้นำเข้า

ปัจจุบันบราซิลถือเป็นผู้ส่งออกเนื้อไก่รายใหญ่ที่สุดของโลก ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่สูงถึง 9.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เมื่อปี 2022 ที่ผ่านมา ซึ่งขณะนี้ได้รับการยืนยันพบเคสการติดเชื้อไข้หวัดนก H5N1 ในนกป่าแล้วอย่างน้อย 8 เคส โดย 7 เคสอยู่ในรัฐเอชปีรีตูซังตู และอีก 1 เคสตรวจพบในรัฐรีโอเดจาเนโร ทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ของบราซิล

ทางด้านกระทรวงเกษตรบราซิลเผยว่า ขณะนี้ได้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินระดับชาติ เพื่อประสานงาน วางแผน และประเมินสถานการณ์เกี่ยวกับเชื้อไข้หวัดนกในบราซิลแล้ว และถึงแม้ว่ารัฐที่ผลิตสินค้าจำพวกเนื้อสัตว์จะกระจุกตัวอยู่บริเวณทางตอนใต้ของประเทศ แต่รัฐบาลบราซิลก็มีความตื่นตัวอย่างมากที่จะควบคุมสถานการณ์ของโรคให้อยู่ในวงที่จำกัด หลังจากที่เริ่มพบรายงานการติดเชื้อไข้หวัดนกในหมู่นกป่าเริ่มแพร่ระบาดมาสู่หมู่สัตว์ปีกเศรษฐกิจในบางประเทศแล้ว

โดยกระทรวงสาธารณสุขบราซิลเผยว่า ตรวจพบเคสต้องสงสัยที่อาจเป็นการติดเชื้อไข้หวัดนกในมนุษย์ 33 เคสในรัฐเอชปีรีตูซังตูที่มีรายงานตรวจพบเคสติดเชื้อไข้หวัดนกเคสแรกในนกป่าเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ก่อนที่จะมีผลการติดเชื้อไข้หวัดนก H5N1 สายพันธุ์ย่อยเป็นลบในเวลาต่อมา ซึ่งทางการบราซิลจะเฝ้าติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไข้หวัดนกภายในประเทศอย่างใกล้ชิดต่อไป

ภาพ: Arif biswas / Shutterstock

อ้างอิง: