สำนักข่าว CNBC รายงานว่า การเจรจาระหว่างคณะตัวแทนจากพรรครีพับลิกันและเดโมแครตเพื่อหาข้อตกลงในการขยายเพดานหนี้ของสหรัฐฯ กลับมาเดินหน้าอีกครั้ง หลังจากที่ในช่วงเย็นวันศุกร์ที่ผ่านมา (19 พฤษภาคม) การหารือดังกล่าวต้องหยุดชะงักไปจากการวอล์กเอาต์ของฝ่ายรีพับลิกันที่กล่าวโทษฝ่ายเดโมแครตว่าพยายามจะทำให้การประชุมไม่คืบหน้า
“มันน่าหงุดหงิดที่พวกเขาเข้ามาในห้องเจรจาและคิดจะใช้จ่ายงบประมาณในปีถัดไปเพิ่มขึ้นจากปีนี้ มันไม่ถูกต้องและเราจะไม่ยอมให้มันเกิดขึ้น” เควิน แมคคาร์ธี ประธานสภาผู้แทนราษฎรซึ่งอยู่ฝ่ายรีพับลิกัน ให้สัมภาษณ์กับ Fox Business
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
หัวข้อสำคัญที่ทั้งสองฝ่ายพยายามต่อรองให้ตัวเองมีความได้เปรียบคือ การกำหนดงบการใช้จ่ายของรัฐบาล โดยฝ่ายรีพับลิกันต้องการให้รัฐบาลตัดลดงบใช้จ่ายในปีหน้าลงจากเดิม ขณะที่ฝ่ายเดโมแครตก็ไม่พอใจกับแนวทางดังกล่าว เพราะการใช้จ่ายที่ลดลงของภาครัฐอาจส่งผลกระทบต่อการดำเนินนโยบายหลายอย่างของพรรค ซึ่งจะส่งผลต่อคะแนนความนิยมในการเลือกตั้งประธานาธิบดีที่กำลังจะมาถึง
“เราควรใช้จ่ายลดลง เราต้องปฏิรูปการใช้จ่ายของตัวเอง ผมคิดว่าเราจะก้าวต่อไปได้ถ้าหาข้อตกลงร่วมกันในเรื่องนี้ได้ และผมเห็นความเป็นไปได้ในเรื่องนี้” แมคคาร์ธีระบุ
ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ภาระหนี้ของรัฐบาลสหรัฐฯ พุ่งแตะเพดานที่ระดับ 31.4 ล้านล้านดอลลาร์ ทำให้กระทรวงการคลังต้องออกมาประกาศใช้มาตรการพิเศษเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดกรณี ‘ผิดนัดชำระหนี้’ ของรัฐบาลกลาง
เจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ ระบุว่า เม็ดเงินในมาตรการพิเศษของกระทรวงการคลังจะช่วยยืดระยะเวลาของปัญหาออกไปได้ถึงแค่ช่วงต้นเดือนมิถุนายนเท่านั้น หากสภาคองเกรสไม่สามารถบรรลุข้อตกลงขยายเพดานหนี้ได้อย่างทันท่วงที ก็อาจนำไปสู่การผิดนัดชำระหนี้ของสหรัฐฯ เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ซึ่งจะถือเป็นหายนะทางเศรษฐกิจ
อย่างไรก็ดี การจะโหวตขยายเพดานหนี้ให้ผ่านได้นั้น สภาคองเกรสจะต้องได้รับเสียงสนับสนุนทั้งจากสภาล่างที่มีรีพับลิกันเป็นเสียงส่วนใหญ่ และสภาบนที่มีเดโมแครตเป็นเสียงส่วนใหญ่ ทำให้ทั้งสองฝ่ายต่างต่อรองกันอย่างเข้มข้นเพื่อช่วงชิงความได้เปรียบในการเลือกตั้งใหญ่ที่กำลังจะมาถึง
ล่าสุด โฆษกทำเนียบขาวออกมาเปิดเผยกับ NBC News ว่า ทั้งสองฝ่ายยังมีความเห็นที่ต่างกันค่อนข้างมากในประเด็นเรื่องงบประมาณรายจ่าย ทำให้การเจรจาเป็นไปด้วยความยากลำบาก พร้อมระบุว่าทีมของประธานาธิบดีโจ ไบเดน กำลังทำงานอย่างหนักเพื่อหาทางออกที่สมเหตุสมผล
ปัจจุบัน โจ ไบเดน อยู่ระหว่างเข้าร่วมประชุมผู้นำ G7 ที่ประเทศญี่ปุ่น โดยเขาตัดสินใจที่จะเดินทางกลับสหรัฐฯ ก่อนกำหนดการเดิมเพื่อมาเข้าร่วมการประชุมขยายเพดานหนี้ที่กำลังดำเนินอยู่
อ้างอิง: