เหลืออีกเพียง 2 วันก่อนการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 32 ที่ประเทศกัมพูชาจะจบลงอย่างเป็นทางการในวันที่ 17 พฤษภาคมนี้ โดยล่าสุด ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (ผู้ว่า กกท.) ได้ออกมาเปิดเผยว่า
“ถึงแม้ว่าตอนนี้ทัพนักกีฬาไทยจะไม่ได้เป็นอันดับ 1 ในตารางเหรียญ แต่ได้มีการตั้งเป้าหมายตั้งแต่แรกแล้วว่าจะเป็นเจ้าเหรียญทองในกีฬาสากลที่มีในโอลิมปิกเกมส์และซีเกมส์ ซึ่งถ้าพิจารณาจากกีฬาสากลไทยก็ยังได้เหรียญทองมากที่สุดในทุกชาติ แม้ว่าเวียดนามจะนำอยู่ในภาพรวมทุกกีฬา นอกจากนั้น ไทยก็ไม่ได้ส่งแข่งบางชนิดกีฬา ทั้งกุน โบกาตอร์, กุน ขแมร์, อานิส, ตะกร้อลอดห่วง ทำให้ไม่ได้คาดหวังว่าจะเป็นเจ้าเหรียญทองในครั้งนี้”
ผู้ว่า กกท. กล่าวอีกว่า “หลังจากนี้จะต้องกลับไปพิจารณากันว่ากีฬาที่พลาดหวังเหรียญทองไปเกิดจากอะไร แต่มีหลายกีฬาที่ไม่ได้คาดหวังว่าจะได้เหรียญทองมากขนาดนี้มาทดแทนที่พลาดไป จากการประเมินเหรียญล่วงหน้าของสื่อมวลชนที่ตั้งเป้าไว้ 112 เหรียญทอง ถือว่าใกล้เคียงกับเป้าหมาย”
ด้านพิธีรับธงเจ้าภาพจัดการแข่งขันในวันที่ 17 พฤษภาคมนี้ จะมีผู้แทนจาก 3 จังหวัดของไทยที่ประกอบไปด้วยกรุงเทพมหานคร ชลบุรี และสงขลา ที่จะเป็นเจ้าภาพร่วมในครั้งหน้าร่วมเข้ารับธงพร้อมกัน และได้มาสังเกตการณ์การเป็นเจ้าภาพเพื่อนำไปเตรียมพร้อมจัดการแข่งขันในด้านต่างๆ มั่นใจว่าไทยจะมีความพร้อมสูงมากในการเป็นเจ้าภาพ เชื่อว่าจะสร้างความประทับใจและทำให้กีฬาซีเกมส์กลับมาได้มาตรฐานสากลเป็นหลัก
“การแสดงของเราจะสื่อสารจิตวิญญาณของไทย อาจจะไม่ได้งบประมาณสูงและอลังการ แต่จะสื่อให้ทุกชาติในอาเซียนรู้ว่าไทยยินดีต้อนรับทุกชาติมาแข่งขันในบ้านของเรา” ดร.ก้องศักดกล่าว
สำหรับยอดเหรียญรางวัลล่าสุด เมื่อช่วงบ่ายของวันนี้ (15 พฤษภาคม) เวียดนามมีเหรียญทองสะสมมากที่สุดที่ 108 เหรียญทอง ตามด้วยไทยในอันดับที่ 2 มี 91 เหรียญทอง และอันดับที่ 3 เป็นอินโดนีเซีย 71 เหรียญทอง ขณะที่เจ้าภาพกัมพูชามี 65 เหรียญทองในอันดับที่ 4