เรียกได้ว่ากำลังเร่งเครื่องแซงคู่แข่งอย่างเต็มที่ เมื่อ BYD ยักษ์ใหญ่แห่งวงการยานยนต์ในจีน ได้ใช้เวทีในงาน Shanghai Auto Show 2023 เปิดตัว BYD Seagull EV รถยนต์ไฟฟ้า Hatchback ขนาดเล็ก เริ่มต้นเพียง 78,800 หยวน (ประมาณ 3.95 แสนบาท)
Bloomberg รายงานว่า การเปิดตัว BYD Seagull EV สีเหลืองและติดป้ายราคาที่เข้าถึงง่าย ดึงดูดความสนใจของฝูงชนได้อย่างมาก โดยรถยนต์คันนี้จะเป็นแบบ 5 ประตู 4 ที่นั่ง ถูกออกแบบมาให้เล็ก กะทัดรัด คล่องตัว และทันสมัย และภายในห้องโดยสารจะมีหน้าจอสัมผัสแบบหมุนได้ขนาด 10.1 นิ้ว ถุงลมนิรภัย 4 ใบ และกุญแจรถบลูทูธ ซึ่งมีกลุ่มเป้าหมายเป็นคนรุ่นใหม่
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- ‘BYD’ ยักษ์ใหญ่รถไฟฟ้าจีนเผยเทคโนโลยีใหม่ รองรับแรงกระแทกขั้นสุด ยกระดับประสบการณ์ขับขี่
- ‘BYD’ ประกาศกำไรปี 2022 พุ่งขึ้น 446% ขึ้นแท่นเจ้าตลาด EV จีน แม้ต้องหั่นราคาสู้ดุเดือด เผยปีนี้พร้อมบุกต่างประเทศ สหรัฐฯ-ยุโรป เปิดตัว 2 แบรนด์หรูปั๊มยอดขาย
- ‘สงครามราคารถยนต์ไฟฟ้า’ มาถึงไทยแล้ว หลังค่ายรถจีน ญี่ปุ่น และเกาหลี กระหน่ำโปรในงาน Motor Show 2023
สำหรับชุดแบตเตอรี่จะเป็นแบตเตอรี่โซเดียมไอออน มีให้เลือก 2 ขนาด ได้แก่ แบตเตอรี่ BYD LFP ขนาด 30 kWh ที่ชาร์จไฟเต็มวิ่งได้ระยะทางราว 300 กิโลเมตร และแบตเตอรี่ BYD LPF ขนาด 38 kWh ที่วิ่งได้ระยะทางไกลถึง 405 กิโลเมตร ซึ่งแบตเตอรี่ทั้ง 2 ขนาด สามารถรองรับการชาร์จเร็วได้ในเวลาเพียง 30 นาทีเท่านั้น
เบื้องต้นจะวางจำหน่ายในจีนก่อน ยังไม่ได้วางแผนส่งออกไปต่างประเทศ เพราะเมื่อไม่นานมานี้ BYD ได้ส่งออกรถรุ่นพี่ในค่ายเดียวกันอย่าง BYD Dolphin เข้าไปทำตลาดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ไปจนถึงยุโรปและอเมริกาใต้
ซึ่งถ้าหากจะนำ BYD Seagull EV ส่งออกไปยุโรป อาจต้องมีการปรับเปลี่ยนระบบการใช้งาน เพื่อให้ผ่านการประเมินรถยนต์นำเข้าของยุโรป และถ้าหากจะแข่งขันกับ Dacia Spring ที่ถูกขนานนามว่าเป็นรถยนต์ EV ที่มีราคาย่อมเยาที่สุดในยุโรป BYD Seagull EV ก็ต้องมีราคาประมาณ 24,000 ดอลลาร์ ซึ่งก็ถือว่าเป็นไปได้ยาก
ด้านสื่อจีนได้รายงานว่า เป็นเรื่องที่ผิดความคาดหมาย เพราะก่อนหน้านี้มองว่า BYD Seagull EV จะเปิดตัวด้วยการชูจุดขายแบตเตอรี่โซเดียมไอออน ซึ่งมีราคาถูกและปลอดภัยกว่าเซลล์ลิเธียมไอออนเสียอีก เพราะรถยนต์ BYD จะเป็นคันแรกที่ใช้แบตเตอรี่โซเดียมไอออน แต่ก็คาดการณ์ว่าจะได้รับการตอบรับอย่างมาก
Tu Le กรรมการผู้จัดการบริษัทที่ปรึกษาด้านยานยนต์ Sino Auto Insights กล่าวว่า BYD ได้เพิ่มแรงกดดันให้กับผู้ผลิตรถยนต์รายอื่นๆ เนื่องจากราคาที่เปิดตัว BYD Seagull EV มีราคาเข้าถึงง่าย ในขณะที่ผู้เล่นหลายคนกำลังแข่งขันกันเรื่องราคา
ทั้งนี้ ปัจจุบัน BYD ถือครองส่วนแบ่งการตลาด EV ของจีนเป็นอันดับต้นๆ ที่มีรถยนต์ 6 รุ่นสร้างยอดขายได้สูงสุดในปี 2022
“แน่นอนว่า BYD Seagull EV จะได้รับการตอบรับและสร้างยอดขายได้อย่างมาก ทั้งในจีนและในตลาดต่างประเทศ เพราะไม่มีบริษัทไหนที่สามารถเปิดตัวรถยนต์ที่มีเทคโนโลยีที่หลากหลายในราคาที่เข้าถึงง่ายได้” Bridget McCarthy นักวิเคราะห์การวิจัยตลาดของกองทุนเฮดจ์ฟันด์ Snow Bull Capital Inc. กล่าว
อ้างอิง:
