ประธานาธิบดีไช่อิงเหวินของไต้หวัน กล่าวยกย่องความสัมพันธ์ของไต้หวันและสหรัฐอเมริกาที่แนบแน่นขึ้นกว่าเดิม ในระหว่างที่เครื่องบินจอดแวะพักที่นิวยอร์ก ก่อนจะเดินทางต่อเพื่อเยือนประเทศในอเมริกากลาง ท่ามกลางแรงกดดันจากจีนที่ขู่ไม่ให้ผู้นำไต้หวันเข้าพบกับ เควิน แมคคาร์ธี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ
แถลงการณ์จากสำนักประธานาธิบดีไต้หวัน ระบุว่า ในระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ที่นิวยอร์ก ซึ่งไม่ได้เปิดให้สื่อมวลชนเข้าไปทำข่าวนั้น ไช่อิงเหวินกล่าวว่า ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ และไต้หวัน ‘ใกล้ชิดกันยิ่งขึ้นกว่าเดิม’ และ ‘มีความก้าวหน้าอย่างมีนัยสำคัญ’ ในด้านความร่วมมือทางเศรษฐกิจและความมั่นคง
นอกจากนี้ ไช่อิงเหวินยังกล่าวด้วยว่า ไต้หวันคือ ‘แสงนำทางแห่งประชาธิปไตย’ และไต้หวันจะไม่เผชิญกับความโดดเดี่ยวแม้จะมีความท้าทายอย่างใหญ่หลวงก็ตาม
“เราได้แสดงถึงความตั้งใจอันแน่วแน่และตั้งปณิธานที่จะปกป้องตนเอง เราสามารถจัดการความเสี่ยงด้วยความสงบและเยือกเย็น และเรามีความสามารถในการรักษาสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาค” ไช่อิงเหวินกล่าว
ทั้งนี้ ไช่อิงเหวินมีแผนแวะนิวยอร์กและลอสแอนเจลิส ระหว่างเดินทางไปยังกัวเตมาลาและเบลีซในทริป ซึ่งจะมีขึ้นในระหว่างวันที่ 29 มีนาคม ถึง 7 เมษายน โดยทั้งกัวเตมาลาและเบลีซเป็น 2 ใน 13 ประเทศที่ดำเนินความสัมพันธ์ทางการทูตเต็มรูปแบบ และให้การรับรองสถานะความเป็นรัฐของไต้หวันอย่างเป็นทางการ
โดยไช่อิงเหวินจะแวะพักที่นิวยอร์กจนถึงวันเสาร์นี้ (1 เมษายน) และหลังจากนั้นเครื่องบินของเธอก็จะแวะที่ลอสแอนเจลิสในเที่ยวบินขากลับด้วยอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งมีกระแสข่าวออกมาว่า ไช่อิงเหวินจะพบกับแมคคาร์ธีในแคลิฟอร์เนีย แม้สำนักประธานาธิบดีไต้หวันจะไม่ได้ออกมายืนยันข่าวดังกล่าวอย่างเป็นทางการก็ตาม
ด้านจีนได้ออกมาขู่ว่าทางการพร้อมตอบโต้ หากในที่สุดแล้วไช่อิงเหวินเข้าพบกับแมคคาร์ธี ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่า หากมีการดำเนินการจากทางจีนจริง ก็ไม่น่าจะรุนแรงเท่ากับเมื่อครั้งที่ แนนซี เพโลซี เดินทางเยือนไต้หวันเมื่อปีที่ผ่านมา ซึ่งเวลานั้นจีนเปิดฉากซ้อมรบด้วยกระสุนจริงใน 6 พื้นที่ล้อมรอบเกาะไต้หวัน แต่ถึงกระนั้น การประชุมดังกล่าวจะถือเป็นครั้งแรกที่ผู้นำไต้หวันได้พบกับประธานสภาผู้แทนราษฎรบนแผ่นดินสหรัฐฯ ขณะที่กองทัพของไต้หวันกล่าวว่า นับจนถึงวานนี้ (30 มีนาคม) ทางการยังไม่เห็นความเคลื่อนไหวทางทหารที่ผิดปกติจากฝั่งจีน
ภาพ: SAM YEH / AFP
อ้างอิง: