ข่าวดีสำหรับแฟน ‘ปีศาจแดง’ คือการที่ มาร์คัส แรชฟอร์ด กลับมาฝึกซ้อมได้อีกครั้ง คลายความกังวลไปได้มากหลังจากที่เจ้าตัวได้รับบาดเจ็บในระหว่างเกมเอฟเอคัพ ที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเอาชนะฟูแลมได้ 3-1
แต่ข่าวดีที่ยังมาไม่ถึงและยังไม่มีใครรู้แน่ชัดคือเรื่องของการต่อสัญญาฉบับใหม่ ซึ่งกลับมาอยู่ในกระแสข่าวบนหน้าสื่อเมืองผู้ดีอีกครั้ง
ในรอบสองวันที่ผ่านมามีกระแสข่าวรายงานเกี่ยวกับเรื่องอนาคตของสตาร์กองหน้าวัย 25 ปีหลายชิ้น และล้วนแต่เป็นที่น่าจับตามองทั้งสิ้น ตั้งแต่ข่าวสีสันที่ Daily Star รายงานตามสไตล์ว่าแรชฟอร์ดต้องการค่าเหนื่อยสูงถึง 500,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์เพื่อแลกกับการฝากอนาคตอยู่ที่โอลด์แทรฟฟอร์ด
ข่าวนี้ทำเอาเจ้าตัวถึงกับออกมาบอกว่า “ไร้สาระสิ้นดี”
อย่างไรก็ดีสื่อคุณภาพอย่าง The Times เองก็รายงานเกี่ยวกับเรื่องสัญญาฉบับใหม่ของกองหน้าที่เป็นคีย์แมนในทีมของ เอริก เทน ฮากในฤดูกาลนี้เช่นกัน แต่ให้น้ำหนักเกี่ยวกับเรื่องความพยายามในการเจรจาของต้นสังกัดอย่างแมนฯ ยูไนเต็ดแทน
“แมนฯ ยูไนเต็ดเตรียมจะเพิ่มความพยายามในการมัดใจ มาร์คัส แรชฟอร์ด ไว้ด้วยสัญญาระยะยาว”
ตามรายงานข่าวระบุว่าการเจรจาจะมีขึ้นในสัปดาห์หน้า โดยตัวแทนของสโมสรเตรียมที่จะพบกับตัวแทนฝั่งของแรชฟอร์ดเพื่อหาข้อสรุปที่น่าพึงพอใจให้ได้
ปัญหาอยู่ที่การเจรจาครั้งนี้อาจไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด แม้ว่ากองหน้าที่เป็นสายเลือดแท้ของสโมสร และยังเป็นชาวแมนคูเนียนด้วยจะมีความปรารถนาที่จะฝากอนาคตอยู่ที่โรงละครแห่งความฝัน แต่ก็ขึ้นอยู่ด้วยว่าสโมสรของเขานั้นเห็น ‘คุณค่า’ ของเขามากเท่ากับที่เขาเห็นคุณค่าของตัวเองหรือเปล่า
ตรงนี้เองที่โยงเข้ากับกระแสข่าวเรื่องค่าเหนื่อยของแรชฟอร์ดได้ ซึ่งตัวเลข 500,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์นั้นอาจจะมากมายมหาศาลเกินไปจนทำให้เจ้าตัวออกมาตอบโต้ข่าวลือทันที แต่ไม่ได้หมายความว่ามันไม่มีมูล
ในสัญญาฉบับดั้งเดิมที่ทั้งสองฝ่ายทำการตกลงต่อกันไว้ตั้งแต่ปี 2019 นั้น แรชฟอร์ดได้รับค่าเหนื่อยมากถึงสัปดาห์ละ 250,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์อยู่แล้ว โดยสัญญานั้นมีระยะเวลา 4 ปี ซึ่งความจริงจะต้องหมดลงในช่วงปิดฤดูกาลนี้
เพียงแต่แมนฯ ยูไนเต็ดเป็นสโมสรที่นิยมในการทำออปชันการขยายสัญญาออกไปเป็นระยะเวลา 1 ปีกับนักเตะระดับสตาร์ ซึ่งที่ผ่านมาก็เคยใช้มาแล้วหลายครั้ง และเมื่อเดือนธันวาคมทางสโมสรตกลงที่จะใช้ออปชันนี้ในรายของแรชฟอร์ดด้วย ทำให้สัญญาถูกขยายเวลาออกไปจนถึงสิ้นสุดเดือนมิถุนายน 2024 แทน
เวลาที่เพิ่มขึ้นมาคือช่วงเวลาของการ ‘ซื้อใจ’ ของทั้งสองฝ่ายว่าจะสามารถหาข้อตกลงในสัญญาฉบับใหม่ได้หรือไม่
เพราะเดิมทีแม้จะเป็นช่วงที่ฟอร์มการเล่นตกอย่างน่าใจหาย แต่กองหน้าที่เล่นได้ทุกตำแหน่งในแนวรุกอย่างแรชฟอร์ดก็เป็นที่หมายตาของสโมสรยักษ์ใหญ่อย่างปารีส แซงต์ แชร์กแมง ที่สนใจที่จะดึงเข้ามาเสริมแนวรุก
โดยบทบาทแล้วแรชฟอร์ดกับแมนฯ ยูไนเต็ดก็คล้ายกับ คีเลียน เอ็มบัปเป กับเปแอสเช คือเป็นกองหน้าริมเส้นฝั่งซ้ายที่มีความอเนกประสงค์สามารถสลับไปเล่นตรงไหนก็ได้ มีความเร็วที่จัดจ้าน เทคนิคการเล่นโดยเฉพาะการเลี้ยงบอลที่ยากจะหาใครหยุดได้ และเซนส์ในการจบสกอร์ที่ยอดเยี่ยม
ยิ่งฟอร์มการเล่นของแรชฟอร์ดกลับมาร้อนแรงและเรียกได้ว่าดีที่สุดนับตั้งแต่เปิดตัวกับแมนฯ ยูไนเต็ด ในเกมยูโรปาลีกนัดที่พบกับมิดทิลแลนด์ (Midtjylland) และทำได้ 2 ประตูเมื่อ 7 ปีก่อน โดยในฤดูกาลนี้เขาทำไปแล้วถึง 27 ประตูจากการลงสนาม 44 นัด (โดยยังเหลือเวลาอีกร่วม 2 เดือนกว่าจะปิดฤดูกาล) ซึ่งก่อนหน้านี้เคยทำได้มากที่สุดคือ 22 ประตูในฤดูกาลเดียว ก็ยิ่งทำให้เอเจนต์ของนักเตะมีความมั่นใจว่าพวกเขาถือไพ่ได้เปรียบอยู่
ถ้าแมนฯ ยูไนเต็ดไม่กล้าสู้ราคา ก็มีทีมอื่นที่พร้อมจะสู้อยู่นะ…
ทั้งนี้ ในรายงานข่าวระบุว่าทางฝ่ายแรชฟอร์ดเชื่อว่าสัญญาฉบับต่อไปจะเป็นสัญญาที่มีความสำคัญที่สุดในชีวิตการเล่นของกองหน้ารายนี้ ไม่ว่าจะเลือกอยู่หรือหากจะต้องไปที่ใดก็จะต้องเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดเท่านั้น ซึ่งแน่นอนตัวเลือกแรกคือการอยู่ที่โอลด์แทรฟฟอร์ดต่อไป
เพียงแต่ปัญหาที่ทำให้การเจรจาชะงักในช่วงที่ผ่านมาคือ การที่มีประเด็นเรื่องการขายสโมสรของครอบครัวเกลเซอร์ ที่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีความชัดเจนนักว่าจะยอมขายออกไปให้กับกลุ่มทุนจากกาตาร์ หรือ เซอร์จิม แรตคลิฟฟ์ ที่ยื่นข้อเสนอซื้อกิจการสโมสรเข้ามาอย่างเป็นทางการแล้วหรือไม่ (ขณะที่ เอลเลียตต์ แมเนจเมนต์ ยื่นข้อเสนอขอเป็นผู้ร่วมทุนรายย่อย)
อย่างไรก็ดี The Times ยังเชื่อว่าแมนฯ ยูไนเต็ดเองตั้งใจที่จะต่อสัญญากับนักเตะที่ไม่ได้มีความสำคัญเพียงแค่การเป็นดาวเด่นหรือดาวซัลโวของทีมเท่านั้น แต่แรชฟอร์ดเป็นมากกว่านั้นมากมายนัก โดยเฉพาะในแง่ของการเป็นสายเลือดแท้ของสโมสร เป็นเด็กชาวแมนคูเนียน และมีโอกาสที่จะเป็นหนึ่งในผู้ที่นำสโมสรกลับคืนสู่ความยิ่งใหญ่อีกครั้ง
การจะหานักเตะที่มาทดแทนแรชฟอร์ดได้ทั้งในเชิงของคุณภาพฝีเท้า ประสบการณ์การเล่น ไปจนถึงคุณค่าทางจิตใจเป็นเรื่องที่ทำได้ไม่ง่าย บนโลกนี้อาจจะมีแค่ วินิซิอุส จูเนียร์ ของเรอัล มาดริด หรือ ควิชา ควารัตสเคเลีย จากนาโปลีเท่านั้นที่อาจจะเทียบเคียงได้
ถ้ายูไนเต็ดตั้งใจจริงๆ สิ่งที่พวกเขาต้องทำไม่ได้มีอะไรมากไปกว่าการ ‘กลั้นใจ’ แล้วกดเครื่องคิดเลขให้ฝ่ายเอเจนต์ของแรชฟอร์ดดู
มันอาจจะไม่ถึง 500,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ แต่หลัก 400,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์นั้นก็พอเป็นตัวเลขที่เป็นไปได้ และมันจะทำให้แรชฟอร์ดแซงหน้า เควิน เดอ บรอยน์ กลายเป็นนักฟุตบอลที่ได้รับค่าเหนื่อยสูงที่สุดของพรีเมียร์ลีกคนใหม่
แบบนี้ถือว่ารับได้ น่าพอใจ
แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือแสดงความจริงใจ ความตั้งใจที่จะพิสูจน์ให้แรชฟอร์ดได้เห็นว่าทำไมเขาถึงควรจะฝากอนาคตเอาไว้กับแมนฯ ยูไนเต็ดต่อไป
จริงอยู่เรื่องเงินก็สำคัญแหละ แต่บางครั้งกับบางคน โดยเฉพาะคนท่ีมีหัวใจทองคำอย่างแรชฟอร์ด ‘ใจ’ มันอาจจะสำคัญกว่าเงินก็ได้
อ้างอิง:
- https://www.thetimes.co.uk/article/manchester-united-to-step-up-marcus-rashford-contract-talks-to-fend-off-psg-hr0q6zn8l
- https://www.independent.co.uk/sport/football/marcus-rashford-contract-manchester-united-transfer-b2310403.html
- https://www.manutd.com/en/news/detail/marcus-rashford-resumes-training-after-injury-sustained-against-fulham