วันนี้ (15 กุมภาพันธ์) ที่รัฐสภา บรรยากาศก่อนการอภิปรายทั่วไปโดยไม่มีการลงมติ ตามมาตรา 152 ในวันแรก ท่ามกลางฝนที่ตกมาตั้งแต่เช้า พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงว่ากลาโหม เดินทางมาถึงรัฐสภา เวลา 09.30 น. พร้อมถึงความพร้อมในวันนี้ว่า “ไม่มีอะไร” ส่วนความกังวลเกี่ยวกับสภาล่มนั้นกล่าวว่า “ไปถามสมาชิก อย่ามาถามเรา”
ขณะที่ ศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงความพร้อมในการอภิปรายทั่วไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 ว่า การอภิปรายมาตรา 152 เป็นการการเสนอแนะ ไม่ใช่การอภิปรายไม่ไว้วางใจ พร้อมจะชี้แจงในเรื่องที่เกี่ยวกับตัวเองในการปฏิบัติหน้าที่
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคฝ่ายค้านอาจหยิบเรื่องที่เคยอภิปรายไม่ไว้วางใจไปแล้ว รวมถึงการยื่นคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นำมาอภิปรายอีกครั้ง ศักดิ์สยามกล่าวว่า ยังไม่ทราบเลย เดี๋ยวรอฟังดู ตนพร้อมอธิบายทุกเรื่อง
ด้าน รังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล เผยว่าพรรคก้าวไกลเตรียมขุนพลอภิปรายไว้ประมาณ 5 คน โดยเริ่มจาก พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส. บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรค ตามด้วย วรภพ วิริยะโรจน์ ส.ส. บัญชีรายชื่อ ในประเด็นเศรษฐกิจ จากนั้นต่อด้วย ณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส. เขตบางขุนเทียน ในประเด็นสังคม และตนเองจะอภิปรายในหัวข้อการเมือง ครอบคลุมประเด็นในทุกมิติ
สำหรับการอภิปรายครั้งนี้ แม้จะเป็นการอภิปรายทั่วไป แต่เนื่องจากเป็นครั้งสุดท้ายของรัฐบาลแล้ว เราจึงยกระดับให้เทียบเท่ากับการอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยเฉพาะเนื้อหาของตนที่เตรียมมาเป็นจำนวนมากที่มีความเกี่ยวพันกับการทุจริตคอร์รัปชัน โดยใช้เวลาเตรียมข้อมูลถึง 3-4 เดือน และมีเวลาอภิปรายถึง 1 ชั่วโมงกว่าๆ มั่นใจว่ามีหลักฐานชัดเจนในการเอาผิดรัฐบาล จะไม่ได้จบแค่การอภิปรายฯ ครั้งนี้ แต่จะต้องมีการเตรียมดำเนินคดีเอาผิดอีกเยอะ
“ผมอยากให้สภาเป็นเวทีที่ทุกฝ่ายมีโอกาสได้พูด อย่าใช้เวทีนี้ในการปิดปากใคร แต่ควรเป็นโอกาสให้ประชาชนรับรู้ข้อมูล หากรัฐบาลชี้แจงไม่ดีประชาชนก็ไม่เลือกคุณ หากฝ่ายค้านตรวจสอบไม่ดีประชาชนก็ไม่เลือก” รังสิมันต์กล่าว
รังสิมันต์ย้ำทิ้งท้ายว่า คณะรัฐมนตรีที่เป็นเป้าหมายในครั้งนี้มั่นใจแล้วว่าเป็นคนที่มีบาดแผลเยอะมากจริงๆ และไม่สมควรที่จะบริหารประเทศต่อไป ส่วนตัวเห็นว่ารัฐบาลก็ปรามาสฝ่ายค้านมาทุกครั้ง แต่ก็ไม่เคยเห็นรัฐบาลชี้แจงอะไรได้ เช่น เรื่องตั๋วช้าง ทั้งนี้ ไม่ขอห้ามการปรามาส แต่อย่ามาปิดปากเรา