ประธานาธิบดีเรเซป ตอยยิบ เออร์โดกัน ผู้นำตุรกี ออกมายอมรับวานนี้ (8 กุมภาพันธ์) ว่าการตอบสนองเบื้องต้นต่อเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงแมกนิจูด 7.8 ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์นั้น ‘มีปัญหา’ ท่ามกลางความโกรธแค้นของผู้ประสบภัยที่ต้องสูญเสียบ้านเรือนและบุคคลอันเป็นที่รัก รวมถึงความผิดหวังที่ทีมกู้ภัยมาถึงช้าเกินไป
เออร์โดกันซึ่งได้เดินทางเยือนพื้นที่ประสบภัยวานนี้กล่าวว่า ปฏิบัติการช่วยเหลือประชาชนกลับมาเป็นปกติแล้ว และให้คำมั่นว่าจะไม่มีใครถูกทิ้งให้ต้องไร้ที่อยู่อาศัย ขณะตัวเลขผู้เสียชีวิตทั้งในตุรกีและซีเรียพุ่งทะลุ 12,000 ราย โดยในตุรกีมียอดผู้เสียชีวิตที่ได้รับการยืนยันแล้ว 9,057 ราย และในซีเรียเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 2,950 ราย
ส่วนในซีเรียนั้นมีสถานการณ์ที่ไม่แตกต่างกัน เนื่องจากประชาชนไม่พอใจที่ความช่วยเหลือเดินทางมาถึงล่าช้าเกินไป รวมถึงมีทรัพยากรไม่เพียงพอที่จะดูแลผู้ประสบภัย หลังจากที่ทางตอนเหนือของประเทศได้รับความเสียหายหนักจากแรงสั่นสะเทือนที่เกิดขึ้นทางตอนใต้ของตุรกีด้วย
ทั้งนี้ คาดการณ์ว่ายอดผู้เสียชีวิตจากทั้งสองประเทศจะทะยานขึ้นอีกเรื่อยๆ เนื่องจากโอกาสรอดชีวิตของผู้คนที่ยังคงติดอยู่ภายใต้ซากอาคารเป็นวันที่ 3 เหลือน้อยลงทุกขณะ โดยเหตุแผ่นดินไหวดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงเวลาประมาณ 04.00 น. ทำให้หลายคนนอนหลับอยู่ในที่พักขณะเกิดแผ่นดินไหว และหนีออกมาในที่โล่งไม่ทัน ก่อนที่อาคารจะพังถล่มลงมา
มาเล็ก วัย 64 ปี ผู้ประสบภัยรายหนึ่งระบุว่า “เรารอดชีวิตจากแผ่นดินไหว แต่เราจะตายที่นี่เพราะความหิวและความหนาว” สะท้อนให้เห็นความทุกข์ของประชาชนที่ความช่วยเหลือของภาครัฐส่งไปไม่ถึง หลายคนต้องนอนในรถ บ้างก็ซุกตัวอยู่ใต้ผ้าห่มนอนตามพื้นถนน ท่ามกลางสภาพอากาศที่หนาวเย็นจัด ประชาชนหลายคนไม่กล้ากลับเข้าไปนอนในอาคาร เพราะยังผวากับเหตุการณ์เมื่อราว 3 วันที่ผ่านมา
ภาพ: Adem Altan / AFP
ภาพ: Omar Haj Kadour / AFP
ภาพ: Bulent Kilic / AFP
ภาพ: Fulya Ozerkan / AFP
ภาพ: Ozan Kose / AFP
ภาพ: Adem Altan / AFP
ภาพ: DHA (Demiroren News Agency) / AFP
อ้างอิง: