วันนี้ (31 มกราคม) สมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกรณีที่กระทรวงสาธารณสุขเตรียมร่างแก้ไขกฎกระทรวง กำหนดหลักเกณฑ์การครอบครองยาบ้าเกิน 1 เม็ด ถือเป็นผู้ค้า ว่าเดิมทีการถือครองยาบ้า 5 เม็ด หากถูกตำรวจ หรือ ป.ป.ส. จับ จะสอบถามกับผู้ที่เสพกับพกพามาว่าจะสมัครใจบำบัด หรือไม่สมัครใจ ก็ต้องส่งศาลพิจารณาคดี ก่อนส่งศาลต้องถูกขังในห้องขังสถานีตำรวจ แต่หากเปลี่ยนกฎหมายมาครอบครองเกิน 1 เม็ด จะเป็นผู้ค้านั้น ถ้ามียาบ้า 2 เม็ด ทุกคนจะต้องเข้าห้องขังทั้งหมด
เมื่อครบ 48 ชั่วโมงแล้ว ต้องนำตัวส่งศาลให้พิจารณาว่าเป็นผู้เสพ หรือเป็นผู้ค้า ดังนั้นหากใครครอบครองยาบ้าเกิน 1 เม็ด ก็ต้องถูกนำตัวเข้าไปขังทันที ซึ่งการใช้ยาแรงเป็นเพราะสถานการณ์ในช่วงเวลานี้ที่การฟื้นฟูบำบัดยาเสพติดทำไม่ทัน เนื่องจากประมวลกฎหมายอาญา เรื่องยาเสพติด มอบหมายหน้าที่นี้ให้เป็นหน้าที่ของกระทรวงสาธารณสุข
ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเห็นว่าแพทย์และพยาบาลต้องเจอคนติดยาบ้าที่มีอาการหลอนมากๆ ก็เป็นอันตราย จึงไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับตรงนี้มาก ในความเข้าใจของตน จึงให้มีการจับเข้าห้องขังทันที มี 2 เม็ดก็นำเข้าห้องขังไว้ก่อน เพื่อความปลอดภัยของคนทำงาน ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขคงมองว่า ถ้าปล่อยไปแบบนี้ เป็นช่วงรอยต่อของการเลือกตั้ง ก็จะยิ่งไม่มีคนดูแลฟื้นฟู จึงตัดสินใจไปดำเนินการเวลานี้
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า เห็นด้วยกับแนวคิดนี้หรือไม่ สมศักดิ์กล่าวว่า ต้องดูผลที่เกิดขึ้น ตนเองไม่มีสิทธิ์ที่จะไปบอกว่าเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย แต่ต้องทำไปตามนี้ เพราะไม่สามารถที่จะบำบัดฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดได้ทัน ซึ่งก็เป็นเรื่องที่น่าจะดี
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า กฎหมายดังกล่าวจะทำให้สถานการณ์ยาเสพติดดีขึ้นหรือไม่ สมศักดิ์กล่าวว่า ไม่ใช่ไม่เกี่ยวกัน เรื่องของยาเสพติดต้องยึดทรัพย์ แต่ในส่วนของคนที่ติดยา คือการฟื้นฟูบำบัด
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ห้องขังจะพอหรือไม่ สมศักดิ์ระบุว่า ตำรวจต้องขังได้ แต่หากส่งมาเรือนจำค่อยว่ากันในระยะต่อไป