อีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีชื่อดังวัย 51 ปี และซีอีโอของ Tesla กลายเป็นบุคคลแรกในประวัติศาสตร์โลกที่สูญเสียความมั่งคั่งถึง 2 แสนล้านดอลลาร์ และสูญเสียตำแหน่งบุคคลที่รวยที่สุดในโลกให้กับ Bernard Arnault เจ้าของแบรนด์เนมหรูในเครือ LVMH หลังจากราคาหุ้น Tesla ที่เขาถือครองอยู่ปรับตัวลดลงถึง 65% ในรอบปีที่ผ่านมา
ช่วงเดือนพฤศจิกายนปี 2021 ความมั่งคั่งของมัสก์เคยพุ่งขึ้นไปแตะจุดสูงสุดที่ 3.4 แสนล้านดอลลาร์ จากการที่ Tesla ก้าวขึ้นมาเป็นบริษัทที่มีมูลค่าตลาดทะลุ 1 ล้านล้านดอลลาร์ได้สำเร็จ อย่างไรก็ดี ภายในเวลาแค่ปีเศษความมั่งคั่งของเขากลับลดลงมาอยู่ที่ 1.37 แสนล้านดอลลาร์
ในรอบปีที่ผ่านมา Tesla ซึ่งถือเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าต้องเผชิญกับคู่แข่งที่เข้ามาในตลาดนี้มากขึ้น ยอดขายที่ตกลงจากการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ ทำให้เมื่อเร็วๆ นี้บริษัทต้องเสนอให้ส่วนลดสำหรับการซื้อรถยนต์ไฟฟ้าโมเดล 3 รุ่นใหม่ และโมเดล Y ให้แก่ลูกค้าในสหรัฐฯ มากถึง 7,500 ดอลลาร์ หรือราว 260,000 บาท
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- ‘อีลอน มัสก์’ ร่อนอีเมลถึงพนักงาน Tesla ปลอบใจว่าไม่ต้องไปสนใจตลาดหุ้นที่ ‘ผันผวน’
- มรสุมเศรษฐกิจปี 2022 ทำ ‘มหาเศรษฐีพันล้าน’ ทั่วโลกสูญความมั่งคั่ง 1.4 ล้านล้านดอลลาร์
- ทำเนียบ 10 อันดับมหาเศรษฐี ‘รวยที่สุด’ ของโลก ประจำปี 2022
การให้ส่วนลดครั้งนี้ถือเป็นเรื่องไม่ปกติสำหรับ Tesla เนื่องจากมัสก์เคยประกาศไว้ว่าไม่มีนโยบายที่จะให้ส่วนลด ไม่เพียงแค่นั้น Tesla ยังได้ใช้งบโฆษณาผ่านสื่อโทรทัศน์ท้องถิ่นในจีน ซึ่งขัดแย้งกับแนวคิดของมัสก์ที่ไม่เห็นด้วยกับการใช้งบโฆษณาผ่านสื่อดั้งเดิม นอกจากนี้ Tesla ยังได้ปรับลดจำนวนการผลิตในโรงงานที่เซี่ยงไฮ้อีกด้วย
อีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ความมั่งคั่งของมัสก์ลดลงคือ การที่เขามัวแต่หมกมุ่นอยู่กับการเขย่าโครงสร้างของ Twitter แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียชื่อดังซึ่งเขาซื้อกิจการเข้ามาในราคา 4.4 หมื่นล้านดอลลาร์ และมักจะใช้มันเป็นช่องทางสื่อสารมุมมองต่อเรื่องต่างๆ ของเขา โดยส่วนหนึ่งที่ราคาหุ้น Tesla ปรับตัวลดลงค่อนข้างมากก็เป็นผลมาจากการที่มัสก์เทขายหุ้นเพื่อนำเงินมาซื้อ Twitter นั่นเอง
ไม่กี่วันก่อนหน้านี้ Forbes นิตยสารจัดอันดับคนรวย ได้เผยแพร่บทความที่ระบุว่า ในรอบปี 2022 บรรดาอภิมหาเศรษฐีโลกมีความมั่งคั่งลดลงรวมกันเกือบ 2 ล้านล้านดอลลาร์ โดยสหรัฐฯ เป็นประเทศที่มหาเศรษฐีมีความร่ำรวยหดหายไปมากที่สุดรวมแล้วกว่า 6.6 แสนล้านดอลลาร์ โดยมีปัจจัยหลักมาจากราคาหุ้นเทคโนโลยีที่ดิ่งเหว ซึ่งถูกซ้ำเติมด้วยการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
แน่นอนว่ามัสก์เป็นผู้เสียหายหนักสุดของปี 2022 ตามมาด้วย เจฟฟ์ เบโซส์ ผู้ก่อตั้ง และประธาน Amazon ที่เสียหายราว 8 หมื่นล้านดอลลาร์ เหลือความมั่งคั่งสุทธิที่ 1.06 แสนล้านดอลลาร์, มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ผู้ร่วมก่อตั้ง Meta ทรัพย์สินลดลงราว 7.8 หมื่นล้านดอลลาร์ เหลือความมั่งคั่งสุทธิ 4.27 หมื่นล้านดอลลาร์, แลร์รี เพจ ผู้ร่วมก่อตั้ง และบอร์ดบริหาร Google รวยลดลงราว 4 หมื่นล้านดอลลาร์ เหลือความมั่งคั่งสุทธิที่ 7.68 หมื่นล้านดอลลาร์
นอกจากนี้ ยังมีคนดังอีกหลายคนที่หลุดจากบัญชีอภิมหาเศรษฐีในปีที่ผ่านมา เช่น คานเย เวสต์ แรปเปอร์ชื่อดังที่ถูกแบรนด์กีฬา adidas ตัดความสัมพันธ์จากกรณีที่เขาแสดงความเห็นต่อต้านชาวยิวอย่างต่อเนื่อง หรือ แซม แบงก์แมน-ฟรายด์ อดีตซีอีโอ FTX แพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตเคอร์เรนซี ที่ถูกตั้งข้อหาฉ้อโกงจนต้องยื่นล้มละลายไปเมื่อไม่นานมานี้
อ้างอิง:
