เปรูมีประธานาธิบดีหญิงคนแรกในประวัติศาสตร์ หลังผู้นำคนก่อนถูกถอดถอน

วานนี้ (7 ธันวาคม) สภาพความวุ่นวายทางการเมืองในเปรูกำลังคุกรุ่น หลังจากที่รัฐสภาเปรูมีมติถอดถอนประธานาธิบดีเปโดร กัสติโย ให้พ้นจากตำแหน่ง โดยชี้ว่า เขาไร้ความสามารถทางศีลธรรมอย่างถาวร ส่งผลให้รองประธานาธิบดีดินา โบลูอาร์เต ขึ้นดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่ของเปรู นับเป็นประธานาธิบดีหญิงคนแรกในประวัติศาสตร์ของประเทศแห่งนี้

โดยรัฐสภาเปรูมีมติถอดถอนกัสติโยให้พ้นจากตำแหน่งประธานาธิบดีในทันที หลังจากที่เขาประกาศยุบสภา ซึ่งสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินแห่งชาติ ศาลรัฐธรรมนูญและศาลสูงสุดเปรูชี้ว่า การกระทำดังกล่าวนับเป็นความพยายามที่จะทำรัฐประหาร

ขณะที่ เอดูอาร์โด กามาร์รา ศาสตราจารย์ด้านรัฐศาสตร์และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ประจำมหาวิทยาลัยฟลอริดา อินเตอร์เนชันแนล ชี้ว่า รัฐสภาเปรูสามารถถอดถอนประธานาธิบดีได้ และประธานาธิบดีเปรูเองก็มีความสามารถในการสั่งยุบสภาเช่นกัน ดังนั้นแล้วในทางเทคนิค นี่จึงอาจไม่ใช่การรัฐประหาร แต่จำเป็นต้องอาศัยการตีความว่า แท้ที่จริงแล้วรัฐสภาและประธานาธิบดี ใครมีอำนาจเหนือกว่ากัน ผู้ที่มีอำนาจมากกว่าจะเป็นผู้ชนะ

กัสติโยเป็นอดีตคุณครูและชาวนาที่ตัดสินใจเดินเข้าสู่เส้นทางการเมืองระดับชาติ เขาได้รับเสียงสนับสนุนอย่างมากจากประชาชนชนชั้นรากหญ้าของเปรู จนได้รับชัยชนะในการเลือกตั้ง แต่คะแนนความนิยมของเขาก็ลดลงอย่างมาก ประกอบกับเจอแรงต้านจากหลายภาคส่วนในสภา และมักจะถูกกล่าวหาว่าไร้ความสามารถทางศีลธรรม โดยเขาต้องเผชิญหน้ากับการลงมติถอดถอนเขาให้พ้นจากตำแหน่งถึง 3 ครั้ง นับตั้งแต่ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำประเทศเมื่อช่วงกลางปี 2021 ที่ผ่านมา

สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินได้เสนอแนะให้กัญติโยลาออกจากตำแหน่ง ก่อนที่จะมีการลงมติถอดถอนและให้มอบตัวกับเจ้าหน้าที่ของทางการ หลังจากที่ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา เปรูอยู่ในภาวะการถดถอยและล่มสลายของรัฐธรรมนูญ ซึ่งสิ่งที่กัสติโยทำนั้นไม่สามารถเรียกเป็นอย่างอื่นได้ นอกจากรัฐประหาร พร้อมทั้งระบุว่า การกระทำของกัสติโยอาจเพิกเฉยต่อเจตจำนงของประชาชนชาวเปรูและเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง

โดยโบลูอาร์เตเองก็ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งรองประธานาธิบดีหญิง รวมถึงรัฐมนตรีด้านการพัฒนาและการผนวกรวมสังคมของเปรู พร้อมๆ กับที่กัสติโยก้าวขึ้นมาบริหารประเทศ เมื่อช่วงกลางปี 2021 เช่นเดียวกัน แต่หลังจากที่กัสติโยเผชิญกับวิกฤตทางการเมืองจนต้องพ้นจากตำแหน่งไป ก็เปิดโอกาสให้เธอก้าวขึ้นมาเป็นประธานาธิบดีคนใหม่ของเปรู

โบลูอาร์เตมองว่า ความพยายามของกัสติโยที่จะยุบสภาก่อนที่จะมีลงมติถอดถอนตนเองนั้นขัดต่อหลักรัฐธรรมนูญ โดยหลังจากนี้นั้นเธอได้เรียกร้องให้มีการพักรบในทางการเมือง เพื่อจัดตั้งรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติขึ้น รวมถึงขอพื้นที่และเวลา เพื่อเดินหน้าขับเคลื่อนประเทศให้ก้าวพ้นวิกฤตความวุ่นวายในครั้งนี้ไปให้ได้

ภาพ: Congress of Republic of Peru / Handout / Anadolu Agency via Getty Images

อ้างอิง: