วันนี้ (8 พฤศจิกายน) ที่ทำเนียบรัฐบาล วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) จะมีการถอนร่างกฎกระทรวงการได้มาซึ่งที่ดินเพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัยของคนต่างด้าวตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ การลงทุนโดยการดึงดูดคนต่างด้าวที่มีศักยภาพสูงสู่ประเทศไทย พ.ศ. …. ว่า กระทรวงมหาดไทยจะขอกลับไปพิจารณาใหม่และรับฟังความคิดเห็นอย่างน้อย 15 วันตามกฎหมาย ซึ่งได้ประชุมหารือไปเมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายนที่ผ่านมา และผู้แทนกระทรวงมหาดไทยได้ชี้แจงว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยได้ขอถอนกลับไปพิจารณาใหม่ แต่จะต้องขออนุมัติจาก ครม. ภายในวันเดียวกันนี้ พร้อมย้ำว่าอย่างน้อย 15 วันสามารถเสนอกลับมาใหม่ได้ แต่จะเร็วกว่านั้นไม่ได้ เป็นไปตามกฎหมาย
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า หากถอนเรื่องดังกล่าวออกไปก็จะเหลือแต่ร่างกฎหมายของพรรคเพื่อไทยเมื่อปี 2545 ใช่หรือไม่ วิษณุกล่าวว่าใช่ ซึ่งรุนแรงกว่าร่างกฎกระทรวงฉบับดังกล่าว
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ฉบับนั้นเรียกว่าขายชาติเหมือนกันหรือไม่ วิษณุกล่าวว่าไม่รู้ การขายชาติเป็นเรื่องที่พูดกันเอง ตนก็ไม่เห็นว่าการเอาที่ดินไปขายจะเรียกว่าเป็นการขายชาติ แต่หากว่าจะเรียกก็เรียกไป
วิษณุยังกล่าวอีกว่า การที่คนต่างชาติจะได้ที่ดินมีหลายวิธี อาจจะได้มาจากการเช่ายาว เช่าตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยการให้เช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรมและอุตสาหกรรม ซึ่งสามารถเช่าได้ 90 ปี และยังสามารถซื้อคอนโดมิเนียม 49% ของตึกทั้งหลังได้ รวมถึงอาจจะได้มาตามสนธิสัญญา ซึ่งต่างชาติจะได้มาเยอะ และประกาศกฎกระทรวงปี 2545 ที่ใช้บังคับเป็นการออกตามความใน พ.ร.บ. ประมวลกฎหมายที่ดินวิธีแก้ไขเมื่อปี 2542 ซึ่งในสมัยนั้นเกิดปัญหากับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) และมาออกกฎกระทรวงให้ขายที่ดินได้ในปี 2545
“จากวันนั้นจนถึงวันนี้เป็นเวลา 20 ปีพอดี ก็มีผู้ที่เป็นคนต่างด้าวได้มาซื้อที่ดิน 10 ราย อยู่มา 2 รายได้สัญชาติไทย ดังนั้นก็ยังคงเหลืออีก 8 ราย และ 8 รายไม่มีใครซื้อที่ดินเป็นไร่แม้แต่รายเดียว ซื้อเพียง 100-200 ตารางวาเพื่อปลูกบ้าน เพราะเห็นว่ากฎกระทรวงเป็นภาระที่ยุ่งยาก ซื้อผ่านนอมินีไม่ได้ เพราะหากซื้อผ่านนอมินีซื้อ 100 ไร่ก็ได้ จึงใช้วิธีซื้อผ่านนอมินีแทน หรือไม่ก็ตั้งบริษัทขึ้นมาแล้วตัวเองถือหุ้น 40% และให้คนไทยถือหุ้นอีก 49% เพื่ออุดช่องไว้ วิธีนี้สามารถซื้อที่ดินหมื่นไร่ได้ จึงเป็นเหตุที่กระทรวงมหาดไทยดูแล้วเห็นว่าจะต้องมีการปรับให้เกิดความคล่องตัว”วิษณุกล่าว
วิษณุกล่าวต่อไปว่า ดังนั้นการแก้ไขร่างกฎกระทรวงดังกล่าวในครั้งนี้ไม่ได้เป็นการเปิดให้คนต่างด้าวทุกคนเหมือนกฎกระทรวงเมื่อปี 2545 แต่จะให้คน 4 ประเภทเท่านั้น ซึ่งเรามีวิธีการตรวจสอบทั้ง 4 กลุ่ม และจะต้องมีเงินลงทุนไม่ต่ำกว่า 40 ล้านบาท ซึ่งความแตกต่างคือฉบับปี 2545 ใครที่เป็นคนต่างด้าวสามารถซื้อที่ดินได้หมด แต่ร่างกฎกระทรวงฉบับที่จะถอนออกจาก ครม. ในวันนี้จะกำหนดให้เฉพาะ 4 กลุ่มเท่านั้น ทั้งนี้ ในฉบับปี 2545 จะต้องมีเงินลงทุนและถือครอง 5 ปี จะถอนก่อนไม่ได้ แต่ร่างกฎกระทรวงฉบับดังกล่าวลดลงมาเหลือ 3 ปี เพราะ 20 ปีที่ผ่านมาพบว่าเงื่อนไขไม่ดึงดูด เนื่องจากมีการถือครองที่ดินที่ยาวนานเกินไป ซึ่งการที่กระทรวงมหาดไทยขอถอนเพื่อกลับไปรับฟังความคิดเห็นก็อาจจะมีการแก้ไขเป็น 5 ปีตามเดิมก็ได้
เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า การยอมถอยในวันนี้เป็นเพราะกรณีประเด็นความอ่อนไหวทางการเมืองหรือไม่ วิษณุกล่าวว่า ทุกสาเหตุประกอบกัน เพราะทุกคนรุมด่าว่าขายชาติ ก็ต้องนำกลับไปทำความเข้าใจ ซึ่งได้ตำหนิทั้งรัฐบาลและตัวเองด้วยว่าการชี้แจงไม่ชัดเจน และอาจเป็นความเคราะห์ร้ายเพราะแถลงวันเดียวกับเรื่องการแก้ไขกฎกระทรวงปลดล็อกสุรา อารมณ์ของคนก็เลยพุ่งทะยานไป
วิษณุระบุอีกว่า การนำร่างกฎกระทรวงดังกล่าวกลับไปทำให้ดี และปรับปรุงถามความเห็นให้เข้มงวดกวดขันและรับฟังสิ่งที่เขาวิจารณ์ เพราะหลายข้อก็ถูก นำไปทำให้ดี และหากคิดจะนำกลับมาก็ให้ใช้ของฉบับปี 2545
เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า ให้เช่าไม่ดีกว่าหรือ วิษณุกล่าวว่า ก็ดีที่สุด แต่ไม่ดึงดูดความสนใจให้เขามาลงทุน
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า เสียดายหรือไม่ที่ร่างกฎกระทรวงดังกล่าวถูกถอนออกไป วิษณุกล่าวว่า ไม่เสียดาย
