สภาผู้แทนราษฎรกัมพูชา มีมติเป็นเอกฉันท์ในการผ่านร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ เมื่อวานนี้ (14 ก.พ.) ภายใต้กฎหมายใหม่ อัยการมีสิทธิ์สั่งฟ้องดำเนินคดีในนามของสถาบันกษัตริย์กับผู้ที่หมิ่นประมาทพระบรมวงศานุวงศ์ โดยบทลงโทษมีตั้งแต่จำคุก 1-5 ปี และปรับเป็นเงินประมาณ 15,000-78,000 บาท
เพ็ญ พันหา ประธานคณะกรรมาธิการฝ่ายนิติบัญญัติและความยุติธรรมแห่งรัฐสภากัมพูชา กล่าวว่า ขอบเขตการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพครอบคลุมทั้งการแสดงออกด้วยคำพูด กิริยาท่าทาง เขียนเป็นลายลักษณ์อักษร ภาพวาด หรือวัตถุต่างๆ
การตรากฎหมายดังกล่าวสร้างความวิตกกังวลให้กับกลุ่มนักสิทธิมนุษยชนในกัมพูชา เนื่องจากเกรงว่ารัฐบาลของนายกรัฐมนตรี ฮุน เซน ที่บริหารประเทศมานานกว่า 33 ปี อาจใช้กฎหมายนี้เป็นเครื่องมือในการลงโทษผู้ที่วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล
จัก สุภาพ ผู้อำนวยการศูนย์สิทธิมนุษยชนแห่งกัมพูชา ให้ความเห็นกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า เป็นเรื่องที่อันตรายอย่างมากหากมีการใช้กฎหมายนี้เพื่อเอาผิดคนที่วิจารณ์การทำงานของรัฐบาลดังเช่นที่เกิดขึ้นในหลายประเทศ รวมถึงไทย
สำหรับประเทศไทย ความผิดฐานดูหมิ่นองค์พระมหากษัตริย์ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 จะต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 3-15 ปี
ปัจจุบันกษัตริย์ของกัมพูชาคือพระบาทสมเด็จพระบรมนาถ นโรดม สีหมุนี ซึ่งครองราชย์ตั้งแต่เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2547 จนถึงปัจจุบัน
ทั้งนี้ร่างพระราชบัญญัติฉบับดังกล่าวจะยังไม่มีผลบังคับใช้จนกว่าวุฒิสภาจะลงมติรับรอง และนำขึ้นทูลเกล้าฯ เพื่อให้ทรงลงพระปรมาภิไธย
เมื่อปีที่แล้ว ศาลกัมพูชาได้ตัดสินยุบพรรคกู้ชาติกัมพูชา ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านหลักของพรรคประชาชนกัมพูชา พร้อมสั่งให้แกนนำกว่า 100 คน ห้ามข้องเกี่ยวกับการเมืองเป็นเวลา 5 ปี ขณะที่นายเขม โสกา หัวหน้าพรรค ถูกจับในข้อหากบฏ
อ้างอิง: