สหภาพยุโรปกำลังเผชิญกับวิกฤตพลังงาน อันเนื่องมาจากความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน ทำให้อุปทานพลังงานในประเทศถูกจำกัด ทาง EU จะเสนอให้ประเทศสมาชิกกำหนดเป้าหมายการใช้พลังงานของผู้ขุดคริปโตเคอร์เรนซี เพื่อจัดการกับการใช้ไฟฟ้าในอนาคต
‘EU’ เตรียมแผนการใช้พลังงาน ท่ามกลางการขุดที่เพิ่มขึ้น
ข้อมูลจาก Bloomberg เปิดเผยว่า ทางสหภาพยุโรปจะเสนอให้ประเทศสมาชิกกำหนดเป้าหมายในการใช้พลังงานของผู้ขุดคริปโต เนื่องจากประเทศสมาชิกกำลังได้รับผลกระทบจากการคว่ำบาตรต่อสงครามในยูเครน
นอกจากนี้ คณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ยังได้เผยแพร่อัปเดตเกี่ยวกับกลยุทธ์ด้านพลังงานในปีข้างหน้า ซึ่งอาจนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญสำหรับเหล่านักขุด Bitcoin และคริปโตอื่นๆ โดย EU จะมีการออกแผน ‘European Green Deal’ และตั้งใจที่จะปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงานของภูมิภาคด้วยการบูรณาการแหล่งพลังงานหมุนเวียน
แผน European Green Deal และการพัฒนายุโรปให้เหมาะสมกับยุคดิจิทัล เป็นความสำคัญหลักสองประการของคณะกรรมาธิการ จุดมุ่งหมายคือการทำให้ระบบพลังงานของสหภาพมีประสิทธิภาพมากขึ้น และจะเพิ่มแหล่งพลังงานหมุนเวียน แผนปฏิบัติการนี้จะช่วยให้ภาคพลังงานมีความเป็นดิจิทัลมากขึ้น ซึ่งการประหยัดพลังงานจะทำให้ผู้บริโภคทุกคนได้ประโยชน์
แผนฉบับใหม่ของ EU จะส่งผลต่อเหล่านักขุดอย่างไร?
แน่นอนว่าแผนพลังงานนี้อาจทำให้เหล่านักขุด Bitcoin และนักขุดคริปโตแบบ Proof-of-Work (PoW) อื่นๆ ได้รับผลกระทบ โดยทาง EU จะมีการใช้ระบบ ‘Labeling’ ซึ่งจะทำให้อุตสาหกรรมคริปโตเจอกับความเสี่ยง
แม้ว่าทาง EU จะไม่สามารถให้รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับระบบ Labeling และไม่สามารถระบุได้ว่าสกุลเงินดิจิทัลเหรียญใดที่จะเข้าข่ายใช้พลังงานมาก แต่จากอดีตที่ผ่านมา Bitcoin ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัลอันดับหนึ่ง มักจะถูกโจมตีเกี่ยวกับผลกระทบเชิงลบด้านสิ่งแวดล้อมและการใช้พลังงานที่มากมาตลอด
คณะกรรมาธิการ EU เปิดเผยว่า ในอนาคตจะมีการจัดหาเครื่องมือและวิธีการในการคำนวณมาตรวัดการใช้พลังงาน และผลกระทบต่อสภาพอากาศของบล็อกเชนและเทคโนโลยีดิจิทัล ซึ่งอุตสาหกรรมคริปโตอาจเผชิญกับความไม่แน่นอนครั้งใหม่ เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงแนวทางเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัลและนักขุด Bitcoin
แม้จะมีรายงานฉบับใหม่เปิดเผยว่า การขุด Bitcoin ใช้พลังงาน 253 เทราวัตต์ต่อชั่วโมง (TWh) ซึ่งน้อยกว่า 0.15% ของพลังงานทั่วโลกทั้งหมด และปล่อยคาร์บอนทั่วโลกเพียง 0.09% แต่รัฐบาลและอุตสาหกรรมต่างๆ ยังคงประณามอุตสาหกรรมการขุดคริปโตอยู่เสมอ
การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยงและความผันผวนสูงมาก นักลงทุนจึงควรกระจายความเสี่ยง ศึกษาหาข้อมูล และวางแผนในการลงทุนด้วยความรอบคอบ บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- Bitcoin Rainbow Chart อัปเดตแถบสีม่วงอันใหม่ ‘1 BTC = 1 BTC’ หลังจากราคาบิทคอยน์ดิ่งลงต่อเนื่อง
- 5 สิ่งที่จะเกิดขึ้นกับ Ethereum หลังการอัปเกรดครั้งสำคัญ ‘The Merge’
- เจมี ไดมอน จาก JP Morgan ชี้ สกุลเงินดิจิทัลรวมถึง Bitcoin เป็นแชร์ลูกโซ่แบบกระจายอำนาจ
อ้างอิง: