วานนี้ (11 ตุลาคม) ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน กล่าวว่า เขาคาดหวังว่าชาติพันธมิตรจากโลกตะวันตกจะตอบรับคำขอของยูเครนในการเพิ่มความช่วยเหลือทางทหารอย่างรวดเร็ว หลังจากที่หลายเมืองของประเทศถูกขีปนาวุธรัสเซียถล่มโจมตีตั้งแต่เมื่อวันจันทร์ (10 ตุลาคม)
หลังถูกโจมตีอย่างหนัก เซเลนสกีได้เรียกร้องให้ผู้นำกลุ่ม G7 ช่วยยกระดับขีดความสามารถในการป้องกันภัยทางอากาศมากขึ้น ขณะที่กลุ่ม G7 ให้คำมั่นที่จะสนับสนุนยูเครน “ให้นานที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้” และกล่าวว่าทางกลุ่มจะเดินหน้าให้ความช่วยเหลือทางทหาร และความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมต่อไป
“ผมคาดหวังว่าจะได้เห็นความคืบหน้าในด้านการต่อต้านอากาศยาน และการต่อต้านขีปนาวุธจากพันธมิตรของเรา รวมถึงข้อตกลงในการจัดหาอาวุธและกระสุนชนิดใหม่ๆ ซึ่งมีความสำคัญกับเราอย่างมาก” เซเลนสกีกล่าว
นอกจากนี้ เซเลนสกียังขอให้ชาติพันธมิตร G7 เฝ้าติดตามสถานการณ์ที่ชายแดนยูเครนติดกับเบลารุส หลังจากที่ อเล็กซานเดอร์ ลูกาเชนโก ประธานาธิบดีเบลารุส ซึ่งเป็นพันธมิตรที่ใกล้ชิดของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ได้รับปากที่จะส่งกองกำลังมาประจำการร่วมทัพกับทหารรัสเซียที่ชายแดนติดกับยูเครน
กองทัพยูเครนกล่าวเมื่อคืนวานนี้ว่า ขีปนาวุธของรัสเซียได้ทำลายเมืองกว่า 10 เมืองของยูเครน รวมถึงเมืองลวีฟ, บัคมุต, อัฟดิฟกา และซาปอริซเซีย ขณะเสียงไซเรนเตือนภัยการโจมตีทางอากาศดังกระหึ่มทั่วประเทศต่อเนื่องเป็นวันที่สอง
“ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา รัสเซียได้ใช้การโจมตีด้วยขีปนาวุธอีกครั้ง ซึ่งเป็นขีปนาวุธร่อนกว่า 30 ลูก มีการโจมตีทางอากาศ 7 ครั้ง และการโจมตีด้วยกระสุนปืนใหญ่อีก 25 ครั้ง” กองทัพยูเครนระบุ
อย่างไรก็ตาม เหตุโจมตีวานนี้ถือว่ามีความรุนแรงน้อยกว่าเมื่อวันจันทร์ โดยวานนี้มีผู้เสียชีวิต 7 รายในเมืองซาปอริซเซีย ขณะที่เมืองลวีฟขาดแคลนไฟฟ้าใช้
ภาพ: Ukrainian Presidency / Handout/Anadolu Agency via Getty Images
อ้างอิง: