วานนี้ (11 ตุลาคม) ที่กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข พญ.อัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวถึงความคืบหน้าปฏิบัติการเยียวยาสภาพจิตใจของประชาชนในพื้นที่จังหวัดหนองบัวลำภู จากเหตุภายในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กตำบลอุทัยสวรรค์ อำเภอนากลาง จังหวัดหนองบัวลำภู พร้อมทำตามความประสงค์ของแม่ผู้ก่อเหตุ ขอโทษสังคมผ่านคลิปวิดีโอ
พ.ญ.อัมพรกล่าวว่า กรมสุขภาพจิตได้รับมอบหมายจาก อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้เข้าพื้นที่เยียวยาจิตใจร่วมกับสุขภาพกายตั้งแต่วันที่ 6 ตุลาคมเป็นต้นมา ซึ่งความคืบหน้าของอาการผู้ได้รับบาดเจ็บ ขณะนี้ทุกคนมีอาการดีขึ้นตามลำดับ
ในส่วนของการดูแลใจได้แบ่งกลุ่มผู้ได้รับผลกระทบเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มสีแดง (A) กลุ่มสีเหลือง (B) และกลุ่มสีเขียว (C) พบว่า กลุ่ม A (สีแดง) ผู้ได้รับผลกระทบทางตรงมีจำนวนเพิ่มขึ้นจากเดิม 170 คน เป็น 260 คน ทั้งนี้ ขอให้ไม่ต้องกังวลตัวเลขที่เพิ่มขึ้น เพราะแสดงให้เห็นว่าการเข้าถึงการบริการเยียวยาใจเพิ่มขึ้น
โดยกรมสุขภาพจิตได้จัดทีมดูแลจิตใจกลุ่มนี้อย่างรอบด้าน และวางแผนการเยียวยาจิตใจเป็น 3 ระยะ ซึ่งขณะนี้อยู่ในระยะที่ 2 (1-2 สัปดาห์หลังเกิดเหตุ) ได้ทำการประเมินสุขภาพจิตและเยียวยาจิตใจเป็นรายบุคคล หลังจากงานพระราชทานเพลิงศพในพระบรมราชานุเคราะห์ กรมสุขภาพจิตจะดำเนินการตรวจประเมินทางจิตใจรายบุคคลในทุกกลุ่ม
เพื่อออกแบบการดูแลทางจิตใจ เพื่อให้ดำเนินชีวิตในสังคมได้ โดยการจัดเก็บข้อมูลทะเบียนผู้ได้รับผลกระทบ และทำแผนที่ในการลงพื้นที่ลงเยียวยาจิตใจในกลุ่ม A (สีแดง) และประเมินกลุ่มผู้ที่ได้ผลกระทบในชุมชนพื้นที่ใกล้เคียง เช่น เจ้าหน้าที่ อบต. กู้ภัย ครู ชุมชน และโรงเรียนทั้ง 2 แห่ง เพื่อดูแลเยียวยาจิตใจในระยะยาว
พ.ญ.อัมพรกล่าวต่อไปว่า ตามที่มีกระแสข่าวเกี่ยวกับครอบครัวและญาติผู้ก่อเหตุถูกคุกคาม และชุมชนกล่าวโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการตรวจสอบ ไม่พบเหตุการณ์ดังกล่าว ทั้งนี้ แม่ผู้ก่อเหตุมีความประสงค์ที่จะสื่อสารไปถึงครอบครัวผู้สูญเสีย ขอโทษในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รวมทั้งขอโทษที่ไม่สามารถไปร่วมงานพระราชทานเพลิงศพ โดยอนุญาตให้สื่อมวลชนสามารถนำคลิปและข้อความไปเผยแพร่ได้
กรมสุขภาพจิตจะเร่งพัฒนาแนวทางการชันสูตรทางจิตใจ เพื่อเข้าใจที่มาและโอกาสของการก่อเหตุความรุนแรงในอนาคต ซึ่งจะนำข้อค้นพบสัญญาณเตือน หรือผลการประเมินปัญหาทางจิตใจ เพื่อประโยชน์ในการทำงานดูแลเฝ้าระวังปัญหาสุขภาพจิตเชิงรุกต่อไป