สหรัฐอเมริกาปิดทำการหน่วยงานรัฐบาลบางส่วน หรือ ‘ชัตดาวน์’ เป็นครั้งที่ 2 ในปีนี้ หลังสภาคองเกรสสหรัฐฯ ไม่สามารถอนุมัติร่างงบประมาณฉบับใหม่ทันกำหนดเส้นตายเมื่อเวลาเที่ยงคืนของวันพฤหัสบดี (8 ก.พ.) ที่ผ่านมา (ตามเวลาท้องถิ่น) เนื่องจาก แรนด์ พอล สมาชิกวุฒิสภารัฐเคนทักกี ซึ่งกุมคะแนนเสียงสำคัญของพรรครีพับลิกัน ได้ยืนกรานคัดค้านจนถึงวินาทีสุดท้าย
แรนด์ พอล ไม่เห็นด้วยกับการจัดสรรงบประมาณระยะเวลา 2 ปีด้วยวงเงินสูงถึง 4 แสนล้านเหรียญสหรัฐ รวมถึงการเพิ่มรายจ่าย และขยายเพดานก่อหนี้ของรัฐบาล ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 20 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ
พอลกล่าวในวุฒิสภาว่า “ผมทำไม่ได้ เพราะพรรคการเมืองของผมกำลังร่วมกันทำความผิดต่อการขาดดุลงบประมาณของสหรัฐฯ เรามีร่างกฎหมายงบประมาณความยาว 700 หน้ากระดาษที่เพิ่งปรินต์เสร็จเมื่อเวลาเที่ยงคืน และไม่มีใครได้อ่านเลย”
ด้านเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ทำเนียบขาวได้สั่งการให้หน่วยงานต่างๆ เตรียมพร้อมชัตดาวน์ไว้ก่อนแล้ว หากสภาคองเกรสไม่สามารถอนุมัติงบประมาณก้อนใหม่ได้ทันกำหนดเส้นตาย
อย่างไรก็ตาม คาดว่าภาวะชัตดาวน์ครั้งนี้จะกินเวลาไม่นานนัก เพราะการคัดค้านของพอลถือเป็นการเตะถ่วงตามกระบวนการในวุฒิสภาเท่านั้น ขณะที่สำนักงานบริหารจัดการงบประมาณของสหรัฐฯ อยู่ในระหว่างจัดทำร่างงบประมาณฉบับปรองดองระหว่างรีพับลิกันและเดโมแครต
แต่กระนั้นร่างกฎหมายดังกล่าวอาจพบกับอุปสรรคในการพิจารณาที่สภาผู้แทนราษฎร โดย ส.ส. เดโมแครตส่วนใหญ่ยังไม่ตัดสินใจว่าจะโหวตเห็นชอบหรือไม่ เนื่องจากพวกเขายังไม่ได้รับหลักประกันว่ารีพับลิกันจะบรรจุข้อตกลงคุ้มครองผู้อพยพที่เข้ามาอาศัยในสหรัฐฯ ตั้งแต่เด็ก หรือ DACA เข้าไปในร่างกฎหมายงบประมาณฉบับนี้ด้วยหรือไม่
อ้างอิง:
