วันนี้ (29 กันยายน) เวลา 10.30 น. ที่พรรคประชาธิปัตย์ จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงการสัมมนาเชิงปฏิบัติการในหัวข้อ ‘Social Media in Advance’ ที่คณะกรรมการยุทธศาสตร์ กรุงเทพมหานคร (กทม.) พรรคประชาธิปัตย์ ได้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 29-30 กันยายนนี้ว่า เป็นกิจกรรมเชิงรุกของทีม กทม. ซึ่งมีรองหัวหน้าพรรค องอาจ คล้ามไพบูลย์ เป็นหัวหน้าทีม
สำหรับการทำกิจกรรมในวันนี้ก็เป็นการปฏิบัติการอบรมเชิงรุกและการใช้สื่อยุคใหม่ โดยเฉพาะโซเชียลมีเดีย ซึ่งจะต้องใช้ศาสตร์และศิลป์เพื่อให้การสื่อสารในทางการเมืองของทีม กทม. ของพรรคไปสู่ประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีประสิทธิผลยิ่งขึ้น ซึ่งมีติวเตอร์หลายรายที่มีศักยภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ‘มาดามเดียร์’ วทันยา บุนนาค มาเป็นติวเตอร์สำคัญที่จะช่วยให้ทีมปฏิบัติการสามารถลงมือปฏิบัติได้จริง
“สื่อยุคใหม่โดยเฉพาะโซเชียลมีเดียถือว่าเป็นเรื่องที่มีความสำคัญ และพรรคประชาธิปัตย์ก็ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ ผมเป็นหัวหน้าพรรคก็ให้ความสำคัญ และใช้สื่อโซเชียลมากกว่า 10 ปีแล้ว เฟซบุ๊กของผมก็มีคนติดตามล้านกว่าคน แต่ช่วงหลังเราต้องยอมรับความจริงว่า แม้แต่เฟซบุ๊กเองก็ปิดกั้นการเข้าถึงของผู้ติดตามหรือ Follower ในระดับหนึ่ง เพราะฉะนั้นเราจะทะลุทะลวงสิ่งนี้ไปได้อย่างไร ก็เป็นเรื่องของภาคปฏิบัติที่จะต้องมีการอบรมให้ความรู้ความสามารถกับผู้สมัคร ส.ส. ผู้สมัครท้องถิ่นของกรุงเทพฯ และทีมสนับสนุนทั้งหมดต่อไปในอนาคต ซึ่งกิจกรรมวันนี้ต่อไปก็คงจะต้องขยายไปทำในทุกภาคด้วย” จุรินทร์กล่าว
ด้านองอาจได้กล่าวถึงการจัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการครั้งนี้ว่า เป็นการติวเข้มผู้สมัคร ส.ส. กทม. และทีมงานให้มีความเชี่ยวชาญมากขึ้นในการใช้โซเชียลมีเดีย ผ่านช่องทางการสื่อสารต่างๆ ถึงแม้ผู้สมัคร ส.ส. กทม. และทีมงานจะมีพื้นฐานความรู้การใช้โซเชียลมีเดียอยู่แล้ว แต่การสัมมนาเชิงปฏิบัติการครั้งนี้จะเป็นการฝึกปฏิบัติจริงในเทคนิควิธีการใหม่ ที่จะทำให้การสื่อสารผ่านช่องทางต่างๆ มีประสิทธิภาพมากขึ้น เชื่อว่าการติวเข้มผู้สมัคร ส.ส. กทม. ครั้งนี้ จะช่วยทำให้พี่น้องประชาชนได้ประโยชน์จากการรับรู้ข้อมูลข่าวสารที่ครบถ้วนรอบด้านและน่าสนใจมากขึ้น
สำหรับวทันยาได้มาบรรยายในหัวข้อ ‘Social Media กับนักการเมืองยุคใหม่’ เพื่อตอกย้ำถึงความสำคัญของโซเชียลมีเดียที่มีอยู่อย่างหลากหลายแพลตฟอร์ม พร้อมกับให้คำแนะนำถึงการเลือกช่องทางสื่อสารผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ ที่มีอยู่หลายรูปแบบ แต่ละแบบมีแนวทางและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกัน เพื่อให้สามารถนำเสนอเนื้อหาได้ตรงเป้าหมายมากขึ้น
วทันยายังได้ระบุอีกว่า นอกจากโซเชียลมีเดียจะเป็นช่องทางสื่อสารที่มีประโยชน์และรวดเร็วแล้ว ก็ยังเป็นเสมือนดาบสองคมที่สังคมจะต้องตระหนักถึงผลเสียที่อาจเกิดขึ้นด้วย เพราะโซเชียลมีเดียเองก็สามารถนำไปสู่วิกฤต Fake News ได้เช่นกัน
