Maria Grazia Chiuri ฉลองการก้าวเข้าสู่ปีที่ 7 ของเธอหลังเข้ามารับตำแหน่งครีเอทีฟไดเรกเตอร์หญิงคนแรกของ Dior เมื่อปี 2016 ด้วยคอลเล็กชันที่ดึงเอาบุคคลทางประวัติศาสตร์อย่างพระราชินี Catherine de’ Medici สตรีชนชั้นสูงจากอิตาลีที่กลายมาเป็นพระราชินีแห่งฝรั่งเศสในช่วงยุคปลายยุคเรเนสซองส์
ทุกอย่างในคอลเล็กชันนี้ดูจะเป็นเหมือนสัญลักษณ์ที่เชื่อมโยงความสัมพันธ์ระหว่างอิตาลีและฝรั่งเศส เหมือนกับที่ทั้งพระราชินี Catherine และ Maria Grazia ในฐานะชาวอิตาลีที่เข้ามาทำงานในต่างประเทศ เริ่มกันที่สวน Tuileries ที่ Dior ยึดเป็นสถานที่จัดโชว์มาหลายซีซัน ยังเป็นแลนด์มาร์กสำคัญที่สร้างขึ้นโดยพระราชินี Catherine ในปี 1564 ซึ่งครั้งนี้ Dior ได้ร่วมงานกับศิลปินหญิงอย่าง Eva Jospin ในการออกแบบโชว์สเปซเป็นถ้ำสไตล์บาโรก
นอกจากการเมืองการปกครองในสำนักพระราชวัง พระราชินี Catherine ยังได้นำเอาศิลปะและวัฒนธรรมแบบอิตาลีมาสู่ฝรั่งเศส ตั้งแต่เรื่องอาหารการกินไปจนถึงการแต่งกาย โดยเฉพาะเรื่องแฟชั่นที่พระองค์ได้นำเอาทั้งผ้าลูกไม้และงานปักเย็บแบบอิตาลีมาเผยแพร่ ซึ่งเราได้เห็นอิทธิพลนั้นผ่านงานปัก Punto Madama ชุดคอร์เซ็ตแบบศตวรรษที่ 16 ผสมกับชุดเดรสลายพิมพ์แผนที่กรุงปารีสในย่าน Avenue Montaigne ที่ตั้งร้านสาขาแฟลกชิปของ Dior เหมือนเป็นมุมมองของสองราชินีชาวอิตาลีที่มีต่อฝรั่งเศส
และถึงใครจะบอกว่าผลงานของ Maria Grazia มีความนิ่งและคาดเดาได้ว่าจะออกมาในรูปแบบไหนในแต่ละคอลเล็กชัน แต่จากการรายงานของ The Business of Fashion ระบุว่าตอนนี้ Dior ได้เป็นแบรนด์ที่มีธุรกิจใหญ่กว่าทั้ง Gucci, Prada และ Hermès ด้วยการปั้นยอดขายเพิ่มขึ้น 3 เท่าภายในระเวลา 4 ปี เป็นอีกหนึ่งเครื่องยืนยันว่าดีไซเนอร์ชาวอิตาลีคนนี้นำเม็ดเงินและความมั่งคั่งมาสู่แบรนด์ฝรั่งเศสได้จริงๆ
ภาพ: Getty Images