วันนี้ (30 สิงหาคม) ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวในการเสวนาในหัวข้อ ‘8 ปี ประยุทธ์ พอเถอะครับ ประเทศไทยต้องไปต่อ’ โดยตอนหนึ่งวิจารณ์ว่า 8 ปีที่ผ่านมา ไทยไม่มีที่ยืนในเวทีโลก ภายใต้การนำของ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นั้น
ทิพานันกล่าวว่า ที่ผ่านมาประเทศไทยได้รับเชิญเข้าร่วมการประชุมระหว่างประเทศเกี่ยวกับการส่งเสริมประชาธิปไตยที่มีความเป็นสากล และเป็นการประชุมที่ได้รับการยอมรับจากประชาคมระหว่างประเทศ อย่างต่อเนื่อง อาทิ การประชุม Bali Democracy Forum ซึ่งไทยได้เข้าร่วมเป็นประจำทุกปี และได้มีบทบาทที่แข็งขันและสร้างสรรค์มาโดยตลอด เพราะเป็นเวทีสำหรับการส่งเสริมความร่วมมือในภูมิภาคด้านการพัฒนาประชาธิปไตยและการเมือง เน้นการหารือในลักษณะการแลกเปลี่ยนประสบการณ์และเรียนรู้จากกันและกัน โดยเคารพความแตกต่างของพัฒนาการทางประชาธิปไตยที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของแต่ละประเทศ มีผู้เข้าร่วมระดับผู้นำจาก 37 ประเทศในเอเชีย-แปซิฟิก
ทิพานันกล่าวต่อไปว่า ประเทศไทยเป็นที่ยอมรับในการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 35 เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2562 ซึ่งได้รับเสียงชื่นชมจากนานาชาติในการเป็นเจ้าภาพที่ดี และเมื่อเดือนพฤษภาคม 2565 ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐอเมริกา ได้เชิญ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน-สหรัฐอเมริกา สมัยพิเศษ (ASEAN-U.S. Special Summit) ครั้งที่ 2 ที่กรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา และจากผลของความมุ่งมั่นในการพัฒนาประเทศ เครือข่ายการแก้ไขปัญหาการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDSN) จัดอันดับให้ไทยเป็นประเทศพัฒนาที่ยั่งยืนอันดับ 44 จากทั้งหมด 163 ประเทศ ถือเป็นอันดับที่ 1 ของอาเซียนติดต่อกันเป็นปีที่ 5
“ก้าวสำคัญ คือการที่ไทยได้เป็นเจ้าภาพการประชุมกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจในเอเชีย-แปซิฟิก (APEC) ประจำปี 2565 ไปจนถึงเดือนพฤศจิกายน 2565 โดยมีการประชุมตลอดปี ทั้งระดับผู้นำประเทศ รัฐมนตรี เจ้าหน้าที่ และภาคเอกชนจาก 21 เขตเศรษฐกิจ สะท้อนถึงการยอมรับประเทศไทย สะท้อนการยอมรับในบทบาทของประเทศไทยมีบทบาทในเวทีโลกทัดเทียมกับนานาชาติอย่างไร้ข้อกังขา จึงขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนร่วมเป็นเจ้าภาพที่ดีในการประชุม APEC ที่จะมาถึงนี้ และทุกฝ่ายช่วยกันสร้างบรรยากาศที่ดีต่อการเจรจา เพื่อประโยชน์ในความร่วมมือเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน และความเข้มแข็งของทุกภาคส่วนในทุกมิติ” ทิพานันกล่าว