ในที่สุด Thirteen Lives สิบสามชีวิต (2022) ภาพยนตร์ฮอลลีวูดที่ดัดแปลงมาจากเหตุการณ์กู้ชีวิตทีมฟุตบอลเยาวชนหมูป่าที่ถ้ำหลวง อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ในปี 2561 ก็ได้ลงฉายให้รับชมพร้อมกันทั่วโลกแล้วบน Prime Video แพลตฟอร์มที่เพิ่งบุกตลาดไทยในเดือนนี้
ภาพยนตร์เป็นการกำกับของ Ron Howard ผู้กำกับและนักแสดงชาวอเมริกันที่มีผลงานมาแล้วนับไม่ถ้วน การันตีฝีมือด้วยรางวัลออสการ์จาก A Beautiful Mind (2001) โดยมีผู้เขียนบทคือ William Nicholson จาก Gladiator (2000), Les Misérables (2012), Breathe (2017) ฯลฯ
บทความที่เกี่ยวข้อง
ส่วนเบื้องหลังภาพเป็นฝีมือของคนไทยอย่าง สอง-สยมภู มุกดีพร้อม ผู้กำกับภาพฝีมือดีที่ร่วมงานกับ เจ้ย-อภิชาติพงศ์ วีระเศรษฐกุล มาตั้งแต่ผลงานเรื่องแรกๆ จนเรื่องล่าสุดอย่าง Memoria รวมทั้งภาพยนตร์ต่างประเทศเรื่องดัง อย่าง Call Me By Your Name (2017), Suspiria (2018), Beckett (2021) ฯลฯ
แน่นอนว่าผู้ชมตั้งตารอกันอย่างล้นหลาม ยิ่งได้เห็นรายชื่อนักแสดงคนดังเช่น Viggo Mortensen, Colin Farrell, Joel Edgerton, Tom Bateman, Paul Gleeson รวมถึงฝั่งนักแสดงชาวไทย เช่น ปู สหจักร, เวียร์ ศุกลวัฒน์, เจมส์ ธีรดนย์, อั้ม ถิร, อ้น นพพันธ์, ตู่ ภพธร, พลอย ภัทรากร ฯลฯ ที่มาร่วมแสดงเป็นผู้คนในเหตุการณ์ครั้งนั้น
ไม่กี่เดือนก่อนหน้านี้มีสารคดี The Rescue (2021) ผลงานกำกับของ Jimmy Chin และ Elizabeth Chai Vasarhelyi สองผู้กำกับเจ้าของรางวัลออสการ์จากสารคดี Free Solo (2018) เพิ่งลงบน Disney+ Hotstar ให้ชมกันไปก่อนแล้ว
โดยที่สารคดีเล่าปฏิบัติการการกู้ภัยผ่านทั้งฟุตเทจจริงและภาพจำลองการดำน้ำภายในถ้ำที่ดูสมจริงเอามากๆ ผสมกับคำสัมภาษณ์คนที่เกี่ยวข้อง โดยเน้นไปที่ Rick Stanton และ John Volanthen สองนักดำน้ำชาวอังกฤษผู้เป็นกำลังสำคัญ ซึ่งการโฟกัสในจุดนี้เหมือนๆ กันก็อาจทำให้เกิดการเปรียบเทียบระหว่างสารคดีกับภาพยนตร์ได้อยู่บ้าง
อย่างไรก็ตาม ถือว่าภาพยนตร์ก็สามารถถ่ายทอดอีกแง่มุมหลังม่านที่คนไม่ได้รับรู้ออกมาในอีกรูปแบบหนึ่งเช่นกัน สภาพเหนื่อยล้าของทุกฝ่ายที่หน้างาน เป็นโมเมนต์ที่ทำให้มองเห็นน้ำหนักบนบ่าของพวกเขาท่ามกลางความคาดหวังจากคนทั่วโลก ขณะที่คนมากมายต่างส่งกำลังใจมาให้ แต่พวกเขาเหล่านี้มีหน้าที่ต้องคิดถึงความเป็นไปได้ทุกหนทางในเวลาจำกัด
ซึ่งนั่นรวมถึงการคิดเผื่อไว้ว่าต่อให้พวกเขาเจอทั้ง 13 คนแล้ว ก็มีเปอร์เซ็นต์น้อยที่จะช่วยเหลือออกมาได้แบบมีลมหายใจ ด้วยเทคนิคเช่นในบางฉากที่กล้องอยู่ในระดับเดียวกับผิวน้ำที่ขึ้นๆ ลงๆ ตามตัวละคร เราจึงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกกดดันและลุ้นระทึกไปกับภารกิจการพาตัวทุกคนออกมา ต่อให้จะรู้ผลลัพธ์อยู่แล้วก็ตาม
เช่นเดียวกับสารคดี The Rescue สรุปโดยรวมแล้วถือว่าทั้งสองเรื่องต่างทำหน้าที่ของตัวเองได้ดี คือการเป็นบันทึกเหตุการณ์ที่คนไทยและคนต่างชาติหลั่งไหลมาอาสาช่วยเหลือกันจนภารกิจน่าเหลือเชื่อนี้สามารถลุล่วงไปได้ และยังเป็นการสดุดีให้กับผู้เสียสละชีวิตอย่าง จ่าแซม-สมาน กุนัน และ จ่าเบรุต ปากบารา อย่างสมเกียรติอีกครั้ง
รับชมตัวอย่างภาพยนตร์ได้ที่นี่