เท่อย่างไทยกับ ไทเท่ มิวสิกวิดีโอตัวใหม่ล่าสุดของ TaitosmitH (ไททศมิตร) หลังจากได้ฟังกันไปแล้วช่วงต้นปีพร้อมกับเพลงอื่นๆ ที่ไม่ว่าจะทยอยปล่อยมิวสิกวิดีโอตามมากี่เพลง ก็ได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยมจากผู้ฟังเสมอ ตั้งแต่ เพื่อชีวิตกู, เสื้อกั๊ก, โคโยตี้ และ ไอ้สอง
สำหรับเพลง ไทเท่ ถือเป็นเพลงสุดท้ายที่ได้รับเกียรติจากศิลปินแห่งชาติอย่าง ไวพจน์ เพชรสุพรรณ มาร้องแหล่ให้กับ TaitosmitH ก่อนเขาจะจากไปอย่างสงบเมื่อเดือนมกราคม ช่วงเวลาไม่นานก่อนเพลงนี้จะถูกปล่อยออกมาให้ฟัง
“วงเรารู้สึกโชคดีมากๆ ที่ได้ศิลปินระดับตำนานอย่างพ่อไวพจน์มาร่วมแหล่ให้ในเพลงนี้ด้วย มันเป็นเหมือนการนำเอาความแตกต่างมาผสมกัน แต่กลับอยู่ด้วยกันได้ แล้วก็มีเสน่ห์ด้วย ที่สำคัญทั้งสองสไตล์สื่อสารถึงความภูมิใจในการเป็นไทยได้เท่ทั้งคู่ มันเป็นส่วนผสมที่น่าสนใจมากๆ
“แล้วการได้ร่วมงานกับพ่อไวพจน์ครั้งนี้ เราเชื่อว่ามันคือโชคชะตา เพราะพ่อไม่เคยร้องร่วมกับใครแบบจริงจังมาก่อน ไม่เคยฟีเจอริงกับศิลปินยุคใหม่ในลักษณะนี้ แถมยังตอบรับพวกเราทั้งๆ ที่ไม่ได้รู้จักวงเรามาก่อนด้วย เรียกได้ว่าพ่อไวพจน์เป็นคนเข้ามาเติมเต็มให้บทเพลงนี้สมบูรณ์อย่างแท้จริง”
TaitosmitH เผยว่า อยากจะสะท้อนภาพฝันในอนาคตที่คนต่างวัยสามารถอยู่ร่วมกันได้โดยเคารพความแตกต่าง ให้เกียรติซึ่งกันและกัน แม้ว่าจะมีมุมมองและความภาคภูมิใจต่อความเป็น ‘ไทย’ ไม่เหมือนกัน ฉะนั้น การเลือกใช้คำว่า ‘ไท’ ซึ่งแปลว่าอิสระในเพลงนี้ จึงสื่อความหมายสองมิติ คือความเป็นชนชาติที่เรารัก และความเป็นอิสระในวิถีของตัวเองซึ่งมีคุณค่าเช่นกัน
จ๋าย นักร้องนำของวงเล่าว่า จุดเริ่มต้นมาจากไลน์ริฟกีตาร์ของเขา ก่อนจะนำมาพัฒนาต่อให้ดนตรีมีความแปลกใหม่ ไม่ยึดติดอยู่ในกรอบตามสไตล์ดนตรีแบบเดิมของวง กลายมาเป็นเพลงที่มีกลิ่นอายร็อก ฮิปฮอป บรรเลงร่วมกับเครื่องดนตรีไทยและเสียงแหล่ของไวพจน์ ผสมผสานความเป็น ไทเท่ จากคนต่างรุ่นที่มีเอกลักษณ์แตกต่างกันได้อย่างมีพลัง
เนื้อเพลงพูดถึงความภาคภูมิใจ โดยหยิบยกทั้งคนและสิ่งของมาเปรียบเทียบว่าบ้านเราเองก็มีดีไม่แพ้กัน ด้านมิวสิกวิดีโอเป็นฝีมือกำกับของ โม-พุฒิโรจน์ เทวกุล ณ อยุธยา ทำหน้าที่ขยายความคอนเซปต์นี้ออกมาเป็นภาพ ในบรรยากาศงานวัดที่สว่างไสวด้วยสีสันจากไฟนีออน และยังไม่ลืมใส่บุคคลมาเป็นตัวแทนของไวพจน์ในท่อนร้องของเขาด้วย
ขณะเดียวกัน ความโดดเด่นของเอ็มวีคือการถ่ายทอดความคิดของคนรุ่นใหม่ และสภาวะของบ้านเมืองในทุกวันนี้ผ่านความเป็น ‘ไทย’ เช่น เด็กน้อยที่สวมหน้ากากอินทรีแดง วีรบุรุษที่คนเรียกหาเมื่อประชาชนพึ่งพากฎหมายไม่ได้, ชั้นของกระป๋องที่ปาเท่าไรก็ไม่ล้มเหมือนกองอื่น, น้ำตาลปั้นรูปตาชั่งค่อยๆ ละลายจนเอียงกระเท่เร่, ตุ๊กตาปั้นซูเปอร์แมนถูกระบายผ้าคลุมให้เป็นสีรุ้ง สีของความหลากหลาย ฯลฯ
“กินอย่างไท เดินอย่างไท คิดอย่างไท
ทำอย่างไท อย่างไท อย่างไท”
ไทเท่ เป็นอีกหนึ่งผลงานที่สะท้อนถึงความตั้งใจในการหลอมรวมความแตกต่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องศิลปะหรือนิยามความเป็นไทยก็ตาม คนทุกคนมีสิทธิคิดเห็น เชิดชู รวมถึงวิพากษ์ได้อย่างอิสระ โดยไม่ควรถูกจำกัดให้ต้องเป็นแบบใดแบบหนึ่งตลอดไปเท่านั้น
“น่าเสียดายที่วันนี้พ่อไวพจน์ไม่ได้อยู่ทันฟังเพลงนี้กับพวกเรา ไม่ได้ร่วมเฝ้ามองว่าสังคมอุดมคติที่พวกเราวาดไว้ มันจะเกิดขึ้นได้จริงในสักวัน แต่พวกเราอยากจะบอกว่าเราภูมิใจมากๆ ที่ได้ร่วมร้องเพลงกับพ่อครั้งนี้
“วงไททศมิตรอยากขออุทิศงานชิ้นสุดท้ายของพ่อนี้ให้เป็นตัวแทนเชื่อมความต่างวัยของสังคม พวกเราขอให้พ่อไปสู่ภพภูมิที่ดี มองดูคนรุ่นหลังเติบโตอยู่ข้างบนสวรรค์ และพวกเราอยากขอบคุณพ่อที่ทำให้เราเห็นว่า การเป็นศิลปินนั้นต้องอุทิศร่างกาย ชีวิต จิตใจ ให้กับศิลปะที่ตนรักขนาดไหน”
รับชมมิวสิกวิดีโอ ไทเท่ ได้ที่นี่
