วันนี้ (3 สิงหาคม) ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯ กทม.) พร้อมด้วย วิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าฯ กทม. ลงพื้นที่ชุมชนเคหะร่มเกล้า เขตลาดกระบัง เพื่อวางแนวทางการแก้ปัญหาน้ำท่วม เนื่องจากเป็นพื้นที่น้ำท่วมบ่อยครั้ง
ชัชชาติกล่าวว่า ในชุมชนเคหะร่มเกล้ามีประชาชนอาศัยอยู่ประมาณ 120,000 คน สำหรับแนวทางแก้ปัญหาคือการเร่งสูบน้ำจากคลองลำไส้ไก่ ระยะความยาว 7 กิโลเมตร ที่ล้อมรอบชุมชนเคหะร่มเกล้าให้ระบายได้เร็วที่สุด ก่อนน้ำจะไปรวมกันที่คลองประเวศ
ทั้งนี้ ชัชชาติได้สั่งการให้ทางเขตและสำนักการระบายน้ำ เพิ่มกำลังสูบน้ำในคลองลำไส้ไก่ให้เท่าปริมาณฝนที่ตกมาในพื้นที่ และขุดลอกคูคลองในชุมชนช่วงที่มีเศษขยะและคลองตื้นเขิน จากนั้นคณะเดินทางไปสถานีสูบน้ำประเวศบุรีรมย์ โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาชลหารพิจิตร ซึ่งเป็นสถานีที่อยู่ในความรับผิดชอบของชลประทาน แต่ต้องรับน้ำจาก กทม. เพื่อระบายออกแม่น้ำบางปะกง โดยมี ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีฝ่ายบำรุงรักษา กรมชลประทาน ให้การต้อนรับ
ชัชชาติกล่าวว่า การมาดูสถานีสูบน้ำประเวศบุรีรมย์ เพราะเชื่อมกับคลองประเวศของ กทม. ซึ่งคลองประเวศถือเป็นคลองหลักของเขตลาดกระบัง วันนี้ได้หารือกับกรมชลประทานว่าจะให้กรมชลประทานช่วยเร่งระบายน้ำจากคลองประเวศลงทางเหนือและทางใต้ โดยไม่ต้องให้น้ำผ่าน กทม. เพื่อให้น้ำออกทะเลได้เร็ว เพราะคลองต่างๆ ที่อยู่ทางใต้คลองประเวศลงไปยังรับน้ำได้ เนื่องจากมีการผันน้ำไว้รอแล้ว
ซึ่งทวีศักดิ์ได้ตอบรับตามที่ร้องขอ และจะเร่งติดตั้งเครื่องสูบน้ำและเครื่องผลักดันน้ำในวันพรุ่งนี้ (4 สิงหาคม) ทันที ส่วนทางฝั่งเหนือ กรมชลประทานจะช่วยสูบน้ำจากคลองต่างๆ ทั้งคลองลาดพร้าว คลองเปรมประชากร และคลองประปาสายล่าง ด้วยการสูบน้ำข้ามไปลงคลองรังสิต ฝั่งนครนายก และระบายน้ำไปลงแม่น้ำเจ้าพระยาได้ ซึ่งจะช่วยลดระดับน้ำในคลองเปรมประชากรและคลองลาดพร้าวที่มีระดับน้ำสูงในขณะนี้ได้
ขณะที่เมื่อช่วงเช้าของวันนี้ ชัชชาติได้ประชุมการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ กทม. โดยมีผู้บริหาร กทม., ผู้บริหารสำนักการระบายน้ำ, สำนักงานเขต 50 เขต, สำนักงานประชาสัมพันธ์ และผู้ที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมผ่านระบบการประชุมทางไกล
ในที่ประชุม สำนักการระบายน้ำรายงานการพยากรณ์อากาศโดยกรมอุตุนิยมวิทยาในช่วงเดือนสิงหาคม ซึ่งจะมีฝนตกต่อเนื่อง โดยเฉพาะวันที่ 6-8 สิงหาคมนี้ ในกรุงเทพฯ จะมีฝนตก 60-80% ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีปริมาณฝนสะสม 200-250 มิลลิเมตร ซึ่งขณะนี้มีปริมาณฝนสะสมอยู่ที่ 99 มิลลิเมตร และมีแนวโน้มที่จะสูงขึ้น เนื่องจากจะมีฝนตกอย่างต่อเนื่อง จึงจำเป็นต้องเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำอันเนื่องมาจากน้ำฝน น้ำเหนือ และน้ำทะเลหนุนอย่างใกล้ชิด
ทางชัชชาติจึงได้กำชับสำนักงานเขตพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา 17 เขต ประกอบด้วย 1. เขตบางซื่อ 2. เขตดุสิต 3. เขตพระนคร 4. เขตสัมพันธวงศ์ 5. เขตบางรัก 6. เขตสาทร 7. เขตบางคอแหลม 8. เขตยานนาวา 9. เขตคลองเตย 10. เขตพระโขนง 11. เขตบางนา 12. เขตบางพลัด 13. เขตบางกอกน้อย 14. เขตธนบุรี 15. เขตคลองสาน 16. ราษฎร์บูรณะ และ 17. เขตบางกอกใหญ่ เฝ้าระวังจุดอ่อนริมแม่น้ำเจ้าพระยา เสริมกระสอบทรายบริเวณจุดฟันหลอ ทั้งในจุดที่ยังก่อสร้างเขื่อนถาวรไม่แล้วเสร็จ และบริเวณแนวที่รั่วซึม
ซึ่งขณะนี้ทุกสำนักงานเขตได้วางกระสอบทรายเสร็จแล้ว คงเหลือบริเวณจุดฟันหลอชุมชนศาลเจ้า เขตสัมพันธวงศ์ ขอให้เสร็จสิ้นงานเทกระจาดก่อน จะเร่งวางกระสอบทรายให้แล้วเสร็จ นอกจากนี้ยังจัดเก็บผักตบชวาเปิดทางน้ำไหล ติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพิ่มเติมเพื่อเร่งสูบน้ำออก กรณีเกิดการท่วมขัง และให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม เช่น ทำสะพานไม้ชั่วคราว จัดเทศกิจบริการช่วยเหลือให้เกิดทางเข้า-ออกในชุมชน โดยให้ประสานขอกำลังสนับสนุนพร้อมเครื่องมืออุปกรณ์จากสำนักการระบายน้ำหากจำเป็น
