×

ใบหน้าของชายที่โดนแสงแดดข้างเดียว 28 ปี แสงแดดทำร้ายมากกว่าที่คิด

30.01.2018
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

2 Mins. Read
  • การที่ผิวหนังสัมผัสกับรังสี UVA เป็นเวลานานต่อเนื่อง จะเพิ่มความเสี่ยงเกิดภาวะแก่แดด (Dermatoheliosis) ในวัยชรา
  • Skincancer.org ระบุว่า รังสี UV ในแสงแดดที่ทะลุผ่านชั้นบรรยากาศลงมาถึงพื้นโลกจะมี UVA มากถึง 95%

เมื่อเร็วๆ นี้เว็บไซต์ของ Independent สื่อชั้นนำของอังกฤษได้เผยแพร่รูปถ่ายของชายชราคนหนึ่งซึ่งมีผิวหน้าข้างซ้ายเหี่ยวย่นกว่าข้างขวา เพื่อย้ำเตือนถึงพิษภัยจากการสัมผัสกับรังสี UV ในแสงแดดเป็นเวลานาน โดยภาพดังกล่าวได้รับการตีพิมพ์ครั้งแรกในวารสารการแพทย์นิวอิงแลนด์ (New England Journal of Medicine) เมื่อปี 2012

 

ชายในรูปมีอาชีพขับรถบรรทุกมานาน 28 ปี ส่งผลให้ใบหน้าข้างหนึ่งของเขาต้องสัมผัสกับแสงแดดต่อเนื่องเป็นเวลานาน และจากการศึกษาพบว่า ใบหน้าของเขาเกิดสิวผู้สูงอายุ (Favre-Racouchot syndrome) หรือ ภาวะแก่แดด (Dermatoheliosis) ซึ่งเป็นความผิดปกติของสิวหัวเปิดจำนวนมากที่เกิดจากการตากแดดเป็นเวลานาน

 

และในเคสของชายชราผู้นี้ถือเป็น Unilateral Dermatoheliosis หรือภาวะแก่แดดข้างเดียว เพราะตอนที่ขับรถ ใบหน้าข้างซ้ายของเขาจะสัมผัสกับรังสีอัลตร้าไวโอเลต เอ (UVA) ที่ทะลุผ่านกระจกรถและกระทบผิวหนังโดยตรง ขณะที่ใบหน้าข้างขวาไม่ถูกแดด ดังนั้นจึงไม่ได้รับอันตรายมากนัก

 

อย่างที่ทราบกันว่ารังสี UVA สามารถทะลุก้อนเมฆ กระจก หน้าต่าง และผ่านเข้าสู่ผิวหนังกำพร้าและหนังแท้ของมนุษย์ได้ แตกต่างจากรังสี UVB ที่ไม่สามารถทะลุกระจก ดังนั้นเราจึงสามารถหลีกเลี่ยงรังสี UVB ที่มีช่วงคลื่นสั้นได้ง่าย แต่หลบรังสี UVA ได้ยากแม้จะอยู่ภายในอาคารก็ตาม

 

และข่าวร้ายจาก Skincancer.org ก็คือ รังสี UV ในแสงแดดที่ทะลุผ่านชั้นบรรยากาศลงมาถึงพื้นผิวโลกจะมี UVA มากถึง 95% ส่วน UVB จะมีเพียง 5% เท่านั้น

 

วารสารการแพทย์นิวอิงแลนด์ระบุด้วยว่า นอกจากริ้วรอยเหี่ยวย่นแล้ว การสัมผัสรังสี UVA เป็นเวลานาน ยังเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็งผิวหนังอีกด้วย

 

สำหรับชายชราผู้นี้ แม้ว่าจะเกิดภาวะแก่แดดข้างเดียวแล้ว แต่แพทย์ยังคงแนะนำให้เขาทาครีมกันแดดและใช้ยาทากลุ่มวิตามินเออยู่เสมอ นอกจากนี้ยังแนะนำให้เขาไปตรวจสุขภาพเป็นประจำเพื่อเฝ้าระวังมะเร็งผิวหนังอีกด้วย



แล้วคุณล่ะ ก่อนออกจากบ้านทาครีมกันแดดหรือยัง?



อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising
X
Close Advertising