วิกฤตการเงินของ China Evergrande ยังไม่จบ ล่าสุดบริษัทในเครือถูกสั่งให้จ่ายเงินราว 1.08 พันล้านดอลลาร์แก่ผู้ค้ำประกัน หลังจากที่ไม่สามารถปฏิบัติตามเงื่อนไขภาระหนี้ได้ คาดขายหุ้นแบงก์ Shengjing ที่ถือหุ้นอยู่ 1.3 พันล้านหุ้น เพื่อนำเงินมาจ่ายคืนหนี้
China Evergrande ยักษ์ใหญ่ด้านอสังหาริมทรัพย์ของจีนที่ประสบวิกฤตการเงินอย่างหนัก เปิดเผยว่า Evergrande Group (Nanchang) ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทในเครือ ได้รับคำสั่งให้จ่ายเงิน 7.3 พันล้านหยวน (ราว 1.08 พันล้านดอลลาร์) ให้แก่ผู้ค้ำประกัน เนื่องจากไม่สามารถปฏิบัติตามเงื่อนไขภาระหนี้ได้
รายงานจากสำนักข่าวต่างประเทศระบุว่า Evergrande Group (Nanchang) ได้ให้คำมั่นว่าจะขายหุ้นราว 1.3 พันล้านหุ้นที่ถืออยู่ในธนาคาร Shengjing เพื่อนำเงินมาชำระหนี้
“เนื่องจากผู้กู้ล้มเหลวในการชำระคืนเงินกู้ ผู้ยื่นคำขอจึงปฏิบัติตามภาระผูกพันภายใต้การค้ำประกัน และอ้างสิทธิต่อบริษัทในเครือภายใต้คำมั่นสัญญา” Evergrande กล่าวในแถลงการณ์ที่เปิดเผยต่อตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง ซึ่งเพิ่งผ่านไปเพียง 2 วันหลังจากการประกาศแผนปรับโครงสร้างหนี้ต่างประเทศ
โดยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (30 กรกฎาคม) China Evergrande ได้ประกาศแผนการปรับโครงสร้างหนี้ต่างประเทศ ซึ่งมีการระบุการขายหุ้นในต่างประเทศ การขายธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า และอสังหาริมทรัพย์ อย่างไรก็ตาม นักวิจารณ์บางคนวิพากษ์วิจารณ์ว่าขาดรายละเอียดที่เป็นรูปธรรม และไม่ได้ให้รายละเอียดเพียงพอเกี่ยวกับวิธีที่ Evergrande ตั้งเป้าที่จะปรับโครงสร้างหนี้สินจำนวนมหาศาล
ทั้งนี้ Evergrande เคยเป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มียอดขายสูงสุดในจีน แต่ต้องใช้เวลาหลายเดือนดิ้นรนเพื่อหลุดพ้นภาระหนี้มากกว่า 3 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นหนี้ต่างประเทศราว 2 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็น 6.6%
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในขณะที่ภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีนมีขนาดคิดเป็นประมาณ 1 ใน 3 ของ GDP ประเทศ ส่งผลให้เกิดแรงกดดันด้านการเงินครั้งใหญ่ โดยในอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ของจีนมีการผิดนัดชำระหนี้หลายครั้งจากบริษัทอสังหาริมทรัพย์หลายราย ทำให้นักลงทุนกังวลว่าจะเกิดผลกระทบที่ลุกลามอย่างหนัก ขณะเดียวกัน มีการคาดการณ์กันว่ามูลค่าตลาดรวมของอสังหาริมทรัพย์จีนสูญหายไปมากกว่าล้านล้านดอลลาร์ในปี 2021
อ้างอิง:
