นับเป็นก้าวสำคัญของหนึ่งในบริษัทชั้นนำด้านอสังหาริมทรัพย์รับปี 2561 กับกลยุทธ์ใหม่ของบริษัท แกรนด์ ยูนิตี้ ดิเวลล็อปเมนท์ จำกัด ในเครือบริษัท ยูนิเวนเจอร์ จำกัด (มหาชน) ที่ประกาศเดินหน้ารุกขยายกลุ่มเป้าหมายด้วยทำเลใหม่ติดรถไฟฟ้า พร้อมปรับแบรนดิ้งใหม่ภายใต้คอนเซปต์ Simply Makes Sense เปิดตัว 4 โครงการคอนโดมิเนียมใหม่ และตั้งเป้ายอดขาย 10,000 ล้านบาท หรือเติบโต 160% จากปีที่ผ่านมา (ยอดขายในปี 2560 ประมาณ 3,800 ล้านบาท)

ท่ามกลางการแข่งขันที่ดุเดือดในแวดวงอสังหาริมทรัยพ์ แกรน ยูนิตี้ในปีนี้จะชูจุดขายด้วยการเสนอทำเลใหม่ติดสถานีรถไฟฟ้า จากโครงการเดิมที่ได้ทำเลใกล้รถไฟฟ้า 500 เมตร ถึง 1 กิโลเมตร เป็นทำเลติดสถานีรถไฟฟ้า เพื่อขยายกลุ่มเป้าหมายสู่ตลาดบนมากขึ้น โดยได้ 4 ทำเลที่มี 4 จุดเด่นพร้อมเปิดตัวในปีนี้ รวม 4 โครงการมูลค่ากว่า 12,000 ล้านบาท

ทั้ง 4 โครงการที่เตรียมเปิดตัวในปีนี้ประกอบไปด้วย เซียล่า (Ciela), เดอ ลาพีส (De Lapis), เดนิม (Denim) และ แมสซารีน (Mazarine) โดยแต่ละแห่งจะอยู่ติดรถไฟฟ้า มีทำเลเป็นแหล่งชุมชนหรือศูนย์รวมการคมนาคมของกรุงเทพฯ และมีจุดเด่นที่เป็นเอกลักษณ์ เช่น โครงการย่านมหาวิทยาลัยศรีปทุม โครงการวิวแม่น้ำเจ้าพระยาที่ได้วิวโค้งน้ำสวยไม่เหมือนใคร หรือแหล่งช้อปปิ้งย่านจตุจักร

“ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2561 เราจะเปิด 2 โครงการ คือ เซียล่า สำหรับผู้ที่ต้องการพักอาศัยในทำเลย่านการศึกษาของมหาวิทยาลัยศรีปทุม และมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และ เดอ ลาพีส ที่จะมาตอบโจทย์ผู้มองหาคอนโดมิเนียมริมแม่น้ำย่านจรัญสนิทวงศ์ 81 ซึ่งทั้งสองโครงการจะตอบรับกับแผนการก่อสร้างรถไฟฟ้าที่จะเกิดขึ้น ให้ลูกค้าของเราสามารถเดินทางไปได้ทุกที่ในกรุงเทพฯ อย่างง่ายดาย โดยเราหวังว่าความโดดเด่นของสองโครงการนี้จะช่วยยกระดับการอยู่อาศัยของคนเมือง ตอบโจทย์การใช้ชีวิตบนเหตุผลของตัวคุณเองมากขึ้น” สิริพงศ์ ศรีสว่างวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แกรนด์ ยูนิตี้ ดิเวลล็อปเมนท์ จำกัด กล่าว

อีกหนึ่งกลยุทธ์สำคัญคือการสร้างตัวตนและเอกลักษณ์ของแบรนด์ให้ชัดเจนขึ้น โดยยกแนวคิด Simply Makes Sense หรือ ‘ใช้ชีวิต…บนเหตุผลของคุณ’ สะท้อนถึงที่อยู่อาศัยที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิต ซึ่งออกแบบมาเพื่อความสะดวกสบายและความลงตัวในทุกการใช้งาน ในราคาที่สมเหตุสมผล ซึ่งผู้อยู่อาศัยจะสามารถมั่นใจว่าจะได้รับความคุ้มค่าในการอยู่อาศัยกับทุกโครงการของแกรนด์ ยูนิตี้ อย่างแท้จริง

ไม่ใช่แค่แนวคิดเท่านั้นที่สะท้อนความตั้งใจจริงของแกรนด์ ยูนิตี้ แต่ยังรวมถึงรายละเอียดในการออกแบบและตกแต่งอีกด้วย ทั้งการติดตั้ง Tempered Glass หรือกระจกนิรภัยทั้งโครงการ เพื่อมอบความปลอดภัยและอุ่นใจให้ผู้อยู่อาศัย การติดตั้ง WC Pod หรือห้องนำสำเร็จรูปที่ง่ายต่อการดูแลและซ่อมแซม รวมถึง Private Balcony หรือการออกแบบระเบียงให้เหมาะกับการใช้งานจริง ให้ความเป็นส่วนตัวด้วยระแนงที่ออกแบบมาเป็นอย่างดี

โดยได้พันธมิตรในการออกแบบอาคาร ตกแต่งภายใน พัฒนานวัตกรรมการก่อสร้าง และบริหารงานก่อสร้างจากทีมชั้นนำระดับประเทศ เช่น บริษัท ดีบี สตูดิโอ จำกัด, บริษัท พี ไอ เอ อินทีเรีย จำกัด, บริษัท สยามสตีลอินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) และบริษัท สโตนเฮ้นจ์ อินเตอร์ จำกัด และบริหารจัดการโครงการโดยบริษัท เซนเซส พร็อพเพอร์ตี้ แมเนจเม้นท์ จำกัด

“ในปี 2561 นี้ แกรนด์ ยูนิตี้ ตั้งเป้าหมายหลักในการสร้างเอกลักษณ์และจุดยืนที่ชัดเจนในสายตาของผู้บริโภค เพื่อขยายฐานลูกค้าให้เติบโตอย่างมั่นคง โดยนำเสนอความเรียบง่าย และ make sense ในทุกพื้นที่ของการอยู่อาศัย” สิริพงศ์กล่าวทิ้งท้าย