วันนี้ (27 กรกฎาคม) สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข และรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) และร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง เปิดเผยว่า วันนี้ถือเป็นการประชุมอย่างเป็นทางการ หลังวานนี้ (26 กรกฎาคม) คณะกรรมาธิการได้หารือกันในเบื้องต้นแล้ว
สาธิตระบุว่า ประเด็นที่จะหารือกันวันนี้เป็นการหาทางออกเรื่องวิธีการคำนวณให้สอดคล้องกับที่สภาได้มีมติเปลี่ยนสูตรคำนวณ ส.ส. บัญชีรายชื่อ จากหารด้วย 100 เป็นหารด้วย 500 เพราะหากหารด้วย 100 จะเป็นการหารอย่างตรงไปตรงมา แต่การหารด้วย 500 จะมีเศษที่ต้องตัดทอน ซึ่งจุดนี้ถือเป็นเรื่องยากต่อการคิดวิธีการคำนวณใหม่ อีกทั้งเมื่อมีการเลือกตั้งซ่อมต้องนำมาคำนวณใหม่ให้สอดคล้องกับจำนวน ส.ส. พึงมี ที่เป็นผลพวงจากสูตรหาร 500 ซึ่งปัญหาความยุ่งยากที่เกิดขึ้น สาธิตย้ำว่า เป็นผลมาจากการปรับแก้เป็นสูตรหาร 500 แต่เมื่อผลออกมาแบบนี้ก็ต้องไปปรับแก้มาตราอื่นๆ ให้สอดคล้องกัน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในการใช้จริง
แต่หากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ไม่เห็นด้วยกับร่างกฎหมายฉบับนี้ ก็ต้องนำกลับมาแก้ไขใหม่ ขึ้นอยู่กับเสียงข้างมาก แต่ส่วนตัวขอย้ำว่าไม่เห็นด้วยกับการเปลี่ยนสูตรคำนวณจากหาร 100 เป็นหาร 500
“ตัวผมไม่ได้เห็นด้วย ผมเป็นเสียงข้างน้อย วันที่เป็นเสียงข้างมากคือ 100 พอมาวันนี้ผมเป็นเสียงข้างน้อย แต่ก็ต้องเคารพเสียงข้างมาก” สาธิตกล่าว
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ามีโอกาสกลับไปใช้สูตรหาร 100 หรือไม่ หลังมีรายงานว่าพรรคร่วมรัฐบาลอยากกลับไปใช้สูตรหาร 100 และได้นำเรื่องนี้เสนอมาให้ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พิจารณา สาธิตระบุว่า “ผมไม่ได้อยู่ในส่วนนั้น อยู่นอกความถี่นั้น แต่ว่าในหน้าที่ของผมต้องทำให้ได้หาร 100 ตามความเห็นของเสียงคณะกรรมการข้างมากเดิม เพราะมันถูกต้องตามรัฐธรรมนูญที่เเก้ไขมาแล้ว ใครจะอยากได้อะไรผมไม่รู้ หน้าที่ของกรรมาธิการควรจะทำให้เป็นหาร 100 ตามรัฐธรรมนูญเท่านั้นเอง”
ส่วนมีความเป็นไปได้ที่จะถึงขั้นกลับไปแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นบัตรใบเดียวหรือไม่ สาธิตรีบตอบทันทีว่า ถ้าเป็นแบบนั้นตนรับไม่ได้ จะคัดค้านเป็นคนแรก เพราะเราแก้ไขรัฐธรรมนูญกลับมาเป็นบัตร 2 ใบเเล้ว วันนี้คือการตัดสินว่าจะใช้สูตรหาร 100 หรือ 500 แต่ถ้ากลับไปที่เดิม เสียเวลาประเทศ เอาเวลาไปทำอย่างอื่นดีกว่า
