×

สภาวิศวกร พร้อมหลายหน่วยงาน ตรวจพื้นที่ #ไฟไหม้สำเพ็ง คาดเสียหายไม่ต่ำกว่า 30 ล้านบาท ชี้ควรรื้อทิ้ง 2 อาคาร

โดย THE STANDARD TEAM
27.06.2022
  • LOADING...
สภาวิศวกร

วันนี้ (27 มิถุนายน) ที่ย่านการค้าสำเพ็ง ริมถนนราชวงศ์ เขตสัมพันธวงศ์ สภาวิศวกรพร้อมด้วยวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชปถัมภ์ (วสท.) และกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ตรวจสอบโครงสร้างอาคารจากเหตุไฟไหม้อาคารพาณิชย์ 7 คูหา เมื่อวานนี้ (26 มิถุนายน) ช่วงประมาณ 11.30 น.

 

โดยภายหลังการเข้าตรวจสอบประมาณ 30 นาที อาทิตยา โชคกิจมนัสชัย ผู้อำนวยการเขตสัมพันธวงศ์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่ามีอาคารพาณิชย์ได้รับความเสียหายประมาณ 4 คูหา ซึ่งจากการประเมินมีมูลค่าความเสียหายไม่ต่ำกว่า 30 ล้านบาท และยอมรับว่ายังไม่เคยเกิดเหตุรุนแรงแบบนี้ ที่มีผู้เสียชีวิตถึง 2 ราย ซึ่งถือเป็นบทเรียนสำคัญ 

 

โดยหลังจากนี้จะให้เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปเร่งสำรวจสายไฟเก่า เครื่องใช้ไฟฟ้าเก่า และช่วยประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนช่วยกันเป็นหูเป็นตา หากพบจุดที่มีความเสี่ยงก็ให้แจ้งมายังสำนักงานเขต รวมถึงจะเชิญการไฟฟ้ามาประชุมร่วมกันว่า ให้ไปตรวจสอบว่าในพื้นที่มีหม้อแปลงไฟฟ้าที่เก่าเกินอายุที่สมควรคือมากกว่า 20 ปีหรือไม่ เพื่อดำเนินการซ่อมแซมต่อไป

 

ด้าน โสภา เกียรตินิรชา ผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า ขณะนี้ตรวจสอบพบว่าผู้เสียชีวิตทั้ง 2 รายมีการทำประกันสังคมไว้ รวมถึงรายที่เป็นแรงงานต่างด้าวด้วย จึงจะได้รับเงินชดเชยจำนวน 5 หมื่นบาทต่อราย และยังมีเงินทดแทนตามระยะเวลาการทำงานที่กระทรวงแรงงานจะจ่ายให้ 70% ของค่าแรง โดยต้องไปตรวจสอบระยะเวลาการทำงานของทั้ง 2 คนก่อน

 

ขณะที่ ปิยะบุตร วานิชพงษ์พันธุ์ กล่าวว่า เบื้องต้นจากการตรวจสอบพบว่าอาคารที่ 2 และ 3 ในจุดเกิดเหตุได้รับความเสียหายมากที่สุดที่บริเวณชั้น 2 และชั้น 3 ซึ่งถือว่าไม่มีความปลอดภัยของตัวอาคาร เนื่องจากลักษณะอาคารเป็นอาคารที่มีการต่อเติมชั้นเหล็กขึ้น และตัวอาคารโดนความร้อนเป็นระยะเวลานาน ทำให้โครงสร้างอาคารที่เป็นส่วนรับน้ำหนักมีการแอ่นตัว 

 

ซึ่งตนเองมีความเห็นว่าควรต้องรื้อถอนอาคารที่ 2 และ 3 ออกเพื่อความปลอดภัย ส่วนอาคารริมที่เป็นอาคารที่ 1 และอาคารที่ 4 จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่ามีโครงสร้างบางส่วนเสียหาย แต่ยังสามารถซ่อมแซมเสริมแนวคานรับน้ำหนักของตัวอาคารเพื่อใช้งานอาคารต่อได้ แต่ต้องให้ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับด้านวิศวกรเข้ามาตรวจสอบโครงสร้างเพื่อตรวจสอบเกี่ยวกับความมั่นคงอาคารอีกครั้ง

 

ด้าน วิลาศ เฉลยสัตย์ ผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง ยืนยันว่า หม้อแปลงเครื่องดังกล่าวไม่ได้เปิดใช้งานมา 10 วันแล้ว เนื่องจากอยู่ในระหว่างขั้นตอนการตรวจสอบระบบภายในและสายไฟที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ ในวันเกิดเหตุ ก่อนที่จะเกิดเหตุขึ้นเจ้าหน้าที่ได้มาเตรียมการเปิดใช้งาน เปิดสวิตซ์เพื่อให้กระแสไฟเข้าสู่ระบบ แต่ในช่วงระหว่างเดินทางกลับไปเพื่อรายงาน ได้รับแจ้งว่าเกิดเหตุไฟดับและเกิดไฟไหม้

 

ขณะที่ผู้สื่อข่าวสอบถามว่า วันศุกร์ที่ผ่านมาได้รับแจ้งว่าหม้อแปลงขัดข้องหรือไม่ เนื่องจากมีประชาชนหลายคนพูดตรงกันว่าเห็นกลุ่มควันจากหม้อแปลงไฟฟ้า วิลาศกล่าวว่า ยังไม่ได้รับรายงานเรื่องนี้ ขอกลับไปตรวจสอบอีกครั้งว่าวันศุกร์ได้รับแจ้งหรือไม่

 

ในส่วนที่ผู้เสียหายกังวลว่าจะได้รับการเยียวยาหรือไม่นั้น วิลาศระบุว่า ต้องพิสูจน์สาเหตุของการเกิดเหตุก่อน ซึ่งหมายถึงการตรวจพิสูจน์ระบบด้านในหม้อแปลงไฟฟ้าร่วมกับพิสูจน์หลักฐานกลาง หากเป็นความผิดพลาดของการไฟฟ้าจริง ก็ยินดีที่จะเยียวยาผู้เสียหายที่ได้รับกระทบโดยตรงจากเหตุหม้อแปลงขัดข้อง

 

ซึ่งยังไม่สามารถลงรายละเอียดได้ว่าจะรับผิดชอบส่วนไหนอย่างไร ขณะนี้อาจจะเร็วเกินไปต้องรอให้ได้ผลสรุปก่อน แต่ของการไฟฟ้ายืนยันว่าจะดำเนินการชดใช้ตามขั้นตอนทางกฎหมายที่การไฟฟ้ามีส่วนเกี่ยวข้อง ซึ่งลำดับแรกจะมีการพูดคุยกับผู้เสียหายเพื่อทำความเข้าใจก่อน หากตกลงกันได้จะได้ไม่ถึงขั้นตอนของการฟ้องร้องทางกฎหมาย

 

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X