ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวก 435 จุด โดยได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของกลุ่มเทคโนโลยี และหุ้นที่กำไรเติบโตสูง เช่น Tesla และ NVIDIA แม้การซื้อขายผันผวนระหว่างวันแต่ก็กลับมาอยู่ในแดนบวก หลังจากรองประธาน Fed หนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.5% อีก 2-3 ครั้ง ส่วนวันนี้ นักลงทุนยังคงติดตามการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนพฤษภาคม
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,248.28 จุด เพิ่มขึ้น 435.05 จุด หรือ +1.33%, ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 4,176.82 จุด เพิ่มขึ้น 75.59 จุด หรือ +1.84% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 12,316.90 จุด เพิ่มขึ้น 322.44 จุด หรือ +2.69%
หุ้น 10 ใน 11 กลุ่มของดัชนี S&P 500 ปรับตัวขึ้น นำโดยหุ้นกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย ซึ่งพุ่งขึ้น 3.03% และหุ้นกลุ่มวัสดุที่พุ่งขึ้น 2.69%
หุ้น Tesla, NVIDIA และ Meta Platforms พุ่งขึ้นมากกว่า 4% ซึ่งช่วยหนุนดัชนี S&P 500 และ Nasdaq
หุ้น Amazon พุ่ง 3.1% และหุ้น Apple บวก 1.7% ขณะที่หุ้น Microsoft บวก 0.8% แม้ปรับลดคาดการณ์ผลกำไรและรายได้ในไตรมาส 4 และเตือนเกี่ยวกับผลกระทบจากเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น
ส่วนหุ้น Ford Motor พุ่งขึ้น 2.5% หลังเปิดเผยแผนการลงทุน 3.7 พันล้านดอลลาร์ในโรงงานประกอบรถยนต์ในรัฐมิชิแกน โอไฮโอ และมิสซูรี
ทั้งนี้ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ดีดตัวขึ้นหลังจาก ลาเอล เบรนาร์ด (Lael Brainard) รองประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) กล่าวว่า เธอสนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.50% จำนวน 2-3 ครั้ง และคาดว่าแทบเป็นไปไม่ได้ที่ Fed จะยุติการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายนนี้ หากแรงกดดันด้านอัตราเงินเฟ้อยังไม่ปรับลดลง
ขณะเดียวกัน วานนี้ (2 มิถุนายน) รายงานการจ้างงานแห่งชาติ (ADP) ได้เปิดเผยตัวเลขการจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเพียง 128,000 ตำแหน่งในเดือนพฤษภาคม ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเมษายน 2020 ซึ่งเป็นช่วงที่สหรัฐฯ เผชิญการแพร่ระบาดของโควิด และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 299,000 ตำแหน่ง
การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐฯ ชะลอตัวในเดือนพฤษภาคม โดยได้รับผลกระทบจากความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย ท่ามกลางเงินเฟ้อที่พุ่งสูงสุดในรอบ 40 ปี, สงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน รวมทั้งการใช้มาตรการล็อกดาวน์ในจีนเพื่อสกัดการแพร่ระบาดของโรคโควิด
กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 11,000 ราย สู่ระดับ 200,000 ราย ในสัปดาห์ที่แล้ว และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 210,000 ราย
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรในวันศุกร์นี้ (3 มิถุนายน) ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานอาจเพิ่มขึ้น 325,000 ตำแหน่งในเดือนพฤษภาคม และอัตราการว่างงานอาจปรับตัวลงสู่ระดับ 3.5% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธันวาคม 1969
อ้างอิง: