วันนี้ (20 พฤษภาคม) สุรนันทน์ เวชชาชีวะ อดีตเลขาธิการนายกรัฐมนตรีโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า “เมื่อวานผมเกือบลาออกจากพรรคสร้างอนาคตไทย เรื่องที่ทำให้ผมต้องคิดตัดสินใจเช่นนั้นเป็นผลพวงจากการประชุมคณะกรรมการบริหารที่มีการถกเถียงในจุดยืนเกี่ยวกับ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผมให้ความเห็นว่า หากพรรคได้รับคะแนนเสียงเพียงพอ ได้จำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 25 ที่นั่ง ตามกำหนดที่สามารถเสนอชื่อผู้ที่จะเป็นแคนดิเดตนายกฯ ได้ ก็ไม่มีเหตุผลที่จะไม่เสนอชื่อ ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ตามที่พรรคเสนอต่อประชาชนในการเลือกตั้งทั่วไปที่จะเกิดขึ้น ถึงแม้ว่าเราอาจจะไม่ใช่พรรคขนาดใหญ่ที่เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล และขอคำยืนยันว่าจะไม่ยกมือให้ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ว่าในกรณีใด”
สุรนันทน์ระบุต่อว่า มีการเสนอความเห็นพอสมควร แต่มีกรรมการท่านหนึ่ง ขออนุญาตไม่เอ่ยนาม บอกข้อเสนอของตนเป็นการปาหี่ ซึ่งตนรับไม่ได้ ถ้าอะไรจะเป็นปาหี่ก็คือการหักหลังประชาชนที่ลงคะแนนให้พรรคเพื่อให้ ดร.สมคิดเป็นนายกรัฐมนตรี ดังนั้นอย่างน้อยในรอบแรกของการซาวเสียงในสภาฯ พรรคควรแสดงจุดยืนที่มุ่งมั่นตามที่ประชาชนที่เลือกพรรคต้องการ
“สำหรับ พล.อ. ประยุทธ์นั้น ผมเคยได้ร่วมงานด้วย ท่านเป็นคนเก่งและมีความตั้งใจดี แต่หนทางขึ้นสู่อำนาจมาจากการรัฐประหาร ซึ่งผิดหลักการอุดมการณ์ของผม ที่เลวร้ายกว่าคือการถือครองอำนาจที่ยาวนาน ไม่คืนอำนาจให้กับประชาชนตามวิถีประชาธิปไตย จนตกอยู่ในวังวนของอำนาจนิยม ไม่สามารถบริหารจัดการได้ และนำมาซึ่งความเสียหายต่อประเทศชาติในทุกมิติ ถ้าพรรคสร้างอนาคตไทยไปร่วมรัฐบาลกับ พล.อ. ประยุทธ์อีก ผมก็ร่วมสังฆกรรมด้วยไม่ได้”
สุรนันทน์ยังเปิดเผยด้วยว่า อุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคฯ ซึ่งนับเป็นเพื่อนคนหนึ่ง มานั่งเคลียร์ใจรับฟังมุมมองของตนและยืนยันกับตนว่า
- พรรคจะสนับสนุน ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ให้เป็นนายกรัฐมนตรีให้ได้ เพราะเป็นคนเดียวเท่าที่เห็นขณะนี้ที่จะพาประเทศด้วยชุดความคิดที่จะแก้ปัญหาปากท้องของประชาชน และจัดระบบเศรษฐกิจ สังคม และการเมืองให้เข้าที่เข้าทาง ประเทศเดินหน้าไปได้
- พรรคจะไม่สนับสนุน พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี และไม่เข้าร่วมรัฐบาลที่มี พล.อ. ประยุทธ์เป็นนายกฯ อีก
- พรรคพร้อมที่จะเป็นฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ถ้า พล.อ. ประยุทธ์เป็นนายกฯ
- หัวหน้าพรรคไม่มีข้อตกลงใดๆ ในทางลับกับฝ่ายทหารในการตั้งพรรคและทำงานการเมือง
สุรนันทน์ยืนยันว่า อุตตมขอให้ตนร่วมงานต่อและช่วยกันสร้างพรรคทางเลือกให้กับประเทศและประชาชน ผมรับปาก ไม่ใช่เพราะตนต้องการตำแหน่งหน้าที่อำนาจใดๆ แต่วันนี้ประเทศต้องการชุดความคิดใหม่ๆ ต้องการคนที่มีประสบการณ์ ที่มีบทเรียนทั้งดีและที่พลาดพลั้ง เพื่อจะได้ใช้องค์ความรู้นั้นมาแก้ไขปัญหาที่หมักหมมมายาวนาน
“ผมไม่ต้องทำการเมืองผมก็กลับมาทำร้านกาแฟของผมได้ ไม่เดือดร้อน ผมยืนยันว่าผมเชื่อในอุดมการณ์ประชาธิปไตย ประชาธิปไตยทางการเมืองเท่านั้นที่จะสร้างความยุติธรรมให้กับประชาชนได้ หากบ้านเมืองไม่เป็นประชาธิปไตย โอกาสทางเศรษฐกิจของคนตัวเล็กตัวน้อยก็จะไม่มี มีแต่อภิสิทธิ์ชนและทุนใหญ่ที่อยู่ใกล้ศูนย์อำนาจเท่านั้นที่ได้ประโยชน์ ก็สู้กันต่อไป ผมสัญญาว่าผมจะยึดมั่นในอุดมการณ์และทำให้ดีที่สุด สุดความสามารถ เพื่อให้อนาคตของลูกหลานไทยสดใส มีอนาคต” สุรนันทน์ระบุทิ้งท้าย