เปิดราคา ‘5 ของที่ระลึก’ จากฟุตบอลที่มูลค่าสูงสุดในโลก

กีฬาฟุตบอลได้ชื่อว่าเป็นกีฬายอดนิยมและมีแฟนคลับอยู่ทุกพื้นที่ในโลก ดังนั้นของที่ระลึกต่างๆ ที่เป็นบทบันทึกประวัติศาสตร์ของกีฬาประเภทนี้มักทำราคาได้ในตลาดของสะสม อย่างเช่นข่าวเมื่อเร็วๆ นี้ เสื้อบอลของ ดิเอโก มาราโดนา นักเตะซูเปอร์สตาร์ของทีมชาติอาร์เจนตินาเพิ่งได้รับการประมูลไปด้วยราคาสูงถึง 305 ล้านบาท ทำลายสถิติเสื้อกีฬาและของที่ระลึกจากกีฬาที่แพงที่สุดในโลกไปเป็นที่เรียบร้อย

เสื้อตัวนี้เป็นเสื้อที่มาราโดนาใส่แข่งขันในรอบก่อนรองชนะเลิศกับทีมชาติอังกฤษในฟุตบอลโลกปี 1986 หรือนัดประวัติศาสตร์ที่ทำให้เกิดประตู ‘หัตถ์พระเจ้า’ นั่นเอง โดยในนาทีที่ 51 มาราโดนาใช้แขนซ้ายปัดลูกบอลเข้าประตูทีมชาติอังกฤษ หลังจากนั้นอีก 4 นาที เขาก็โชว์ลีลาเลี้ยงลูกหลบคู่แข่งไปกว่าครึ่งสนามและทำประตูที่สองได้สำเร็จ ซึ่งเป็นหนึ่งในการทำประตูที่ดีที่สุดตลอดกาลของการแข่งขันฟุตบอลโลกเลยทีเดียว

เจ้าของเสื้อคนเดิม สตีฟ ฮ็อดจ์ อดีตกองกลางของทีมชาติอังกฤษในการแข่งขันครั้งนั้น โดยเขาได้แลกเสื้อกับมาราโดนาหลังจบการแข่งขัน ตลอดระยะเวลา 35 ปีที่ผ่านมา สตีฟ ฮ็อดจ์ นำเสื้อออกมาจัดแสดงตามพิพิธภัณฑ์ต่างๆ บ้าง ก่อนจะตัดสินใจนำออกประมูลเมื่อต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งทำราคาได้มากกว่าที่คาดการณ์เอาไว้ถึงเกือบเท่าตัว นอกจากเสื้อหนึ่งเดียวในโลกแล้ว เสื้อสโมสรทีมฟุตบอลวินเทจในการแข่งขันนัดสำคัญๆ ก็กลายเป็นของสะสมที่ทำราคาได้สูง อย่างเช่นเสื้อบอลของทีมบาร์เซโลนาในช่วงปี 1991-1992 ที่คว้าแชมป์ยูโรเปียนคัพเป็นครั้งแรก และเสื้อทีมชาติฮอลแลนด์ในการแข่งขันยูโรเปียนแชมเปียนชิปในปี 1988 ก็มีราคาสูงถึง 25,600 บาท และราคาอาจจะสูงขึ้นไปอีกหากมีลายเซ็นของนักเตะซูเปอร์สตาร์ โดย Gamblingdeals.com วิเคราะห์ข้อมูลและรายชื่อนักเตะต่างๆ ในอดีตและปัจจุบันที่ลายเซ็นมีมูลค่ามากที่สุด

โดยอันดับ 5 ได้แก่ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ อยู่ที่ราวๆ 28,000 บาท อันดับ 4 จอร์จ เบสต์ อยู่ที่ราวๆ 38,000 บาท อันดับ 3 ปิแอร์ เอเมอริก โอบาเมยอง อยู่ที่ราวๆ 38,600 บาท อันดับ 2 เดวิด เบ็คแฮม อยู่ที่ราวๆ 43,000 บาท และอันดับ 1 เซร์คิโอ อเกวโร อยู่ที่ราวๆ 58,000 บาท ส่วนนักเตะที่มีของที่ระลึกพร้อมลายเซ็นจำหน่ายในโลกออนไลน์มากที่สุดถึง 281 ชิ้น คือ ลิโอเนล เมสซี

เหรียญฟุตบอลโลกของ อลัน บอลล์ ราคาประมาณ 7 ล้านบาท

การเป็นส่วนหนึ่งของทีมชาติอังกฤษในการคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกเพียงครั้งเดียวในปี 1966 เป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่มาก จนใครก็อยากจะเก็บของที่ระลึกจากการคว้าชัยครั้งนั้นเอาไว้กับตัว แต่ไม่ใช่สำหรับ อลัน บอลล์ เขาเลือกจะเก็บช่วงเวลาที่ยิ่งใหญ่นั้นไว้เพียงในความทรงจำและตัดสินใจขายเหรียญรางวัลจากการแข่งขันครั้งนั้นในปี 2005 ด้วยราคา 7 ล้านบาท เพื่อนำเงินเก็บไว้ให้ลูกๆ หลานๆ และหลังจากนั้นอีก 2 ปี อลันก็ได้เสียชีวิตลง

ถ้วยฟุตบอลโลก ชูลส์ ริเมต์ ราคาประมาณ 10.9 ล้านบาท

ก่อนที่จะเป็นถ้วยฟีฟ่า เวิลด์คัพ รูปลูกโลกอย่างที่เราคุ้นเคย การแข่งขันฟุตบอลโลกเคยใช้ถ้วยรูปเทพธิดาแห่งชัยชนะที่เรียกกันว่าถ้วยชูลส์ ริเมต์ มาก่อน (ชื่อนี้ได้มาจาก ชูลส์ ริเมต์ ผู้ผลักดันให้มีการจัดการแข่งขันฟุตบอลโลกชาวฝรั่งเศส) โดยใช้ในการแข่งขันฟุตบอลโลกเพียง 9 ครั้ง คือในปี 1930-1970 แล้วมอบให้ประเทศบราซิลเนื่องจากคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกถึง 3 สมัย ถ้วยชูลส์ ริเมต์ เคยถูกขโมยไปถึง 2 ครั้ง ครั้งแรกหายไป 7 วัน ในปี 1966 ส่วนอีกครั้งถ้วยถูกนำไปหลอมทำลายเพื่อขายในปี 1983 ส่วนถ้วยที่ได้รับการประมูลไปในปี 1997 เป็นแบบจำลอง ด้วยราคา 10.9 ล้านบาท

ถ้วยเอฟเอคัพ ราคาประมาณ 32.5 ล้านบาท

ถ้วยเอฟเอคัพที่นำออกมาประมูลเป็นถ้วยรุ่นที่ 2 หลังจากรุ่นแรกหายไปตั้งแต่ปี 1865 โดยถ้วยรางวัลนี้ถูกใช้งานระหว่างปี 1896-1910 สลักลายชื่อสโมสรที่คว้าแชมป์ในช่วงนั้นไว้ด้วย เช่น เชฟฟิลด์ เวนส์เดย์, แมนเชสเตอร์ ซิตี้, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, เอฟเวอร์ตัน, นิวคาสเซิล, ท็อตแนม ฮอตสเปอร์, น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ และ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ซึ่งนับได้ว่าถ้วยนี้เป็นถ้วยรางวัลเอฟเอคัพที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ณ เวลานี้ โดย เดวิด โกลด์ เจ้าของสโมสรเวสต์แฮม ยูไนเต็ด ซื้อเอาไว้ในปี 2005 และนำมาออกประมูลในปี 2020 ในราคา 32.5 ล้านบาท

บันทึกกติกาฟุตบอลสมัยใหม่ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ราคาประมาณ 37.7 ล้านบาท

บันทึกกติกาฟุตบอลสมัยใหม่ที่เก่าแก่ที่สุดในโลกเป็นของสโมสรฟุตบอลเชฟฟิลด์ ตั้งแต่ปี 1857 หรือเมื่อ 165 ปีก่อน ซึ่งก่อนหน้านั้นกีฬาฟุตบอลเล่นกันอย่างไม่มีกฎเกณฑ์ โดยบันทึกนี้มีการบรรจุกฎกติกาต่างๆ เช่น การเตะลูกโทษ การเตะมุม และแฮนด์บอล เป็นต้น กติกาฉบับนี้ได้รับการประมูลไปในปี 2011 ด้วยราคา 37.7 ล้านบาท

เสื้อฟุตบอลของ ดิเอโก มาราโดนา จากเวิลด์คัพ 1986 ราคาประมาณ 305 ล้านบาท

กลายเป็นการทำประตูครั้งประวัติศาสตร์ของวงการฟุตบอลโลก สำหรับประตู ‘หัตถ์พระเจ้า’ เมื่อ ดิเอโก มาราโดนา นักเตะทีมชาติอาร์เจนตินาใช้แขนซ้ายทำประตูขึ้นนำอังกฤษ 1-0 ก่อนยิงอีก 1 ลูกที่ได้รับการยกย่องให้เป็น 1 ในการทำประตูที่ดีที่สุดตลอดกาลของฟุตบอลโลก เฉือนชนะอังกฤษไป 2-1 ในรอบก่อนรองชนะเลิศ และคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกในปีนั้นมาครอง ในครั้งนั้นมาราโดนาได้แลกเสื้อแข่งกับ สตีฟ ฮ็อดจ์ กองกลางทีมชาติอังกฤษ โดยฮ็อดจ์นำมาออกแสดงตามพิพิธภัณฑ์ฟุตบอลต่างๆ บ้าง จนกระทั่งล่าสุดก็นำออกมาประมูลผ่านสถาบัน Sotheby’s ราคาอยู่ที่ 305 ล้านบาท กลายเป็นเจ้าของสถิติของที่ระลึกจากกีฬาที่แพงที่สุดในโลก เอาชนะคำแถลงการณ์ฉบับจริงของ ปิแอร์ เดอ กูแบร์แตง ผู้ก่อตั้งโอลิมปิกเกมส์ยุคใหม่ที่เคยทำราคาได้ราวๆ 289.7 ล้านบาท ในปี 2019

อ้างอิง: