วันนี้ (8 เมษายน) ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงการเตรียมพร้อมส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) จังหวัดราชบุรี แทน ปารีณา ไกรคุปต์ ที่ถูกศาลฎีกาพิพากษาคดีรุกป่าสงวนว่าผิดจริยธรรมร้ายแรง เพิกถอนสิทธิการเลือกตั้ง 10 ปี และไม่มีสิทธิรับสมัครเลือกตั้งและดำรงตำแหน่งทางการเมืองตลอดชีวิต ว่ามีสมาชิกพรรคในพื้นที่อยู่แล้ว แต่ต้องรอการหารือกับคณะกรรมการบริหารพรรคและต้องผ่านคณะกรรมการสรรหาก่อนตามกระบวนการ ขณะนี้ยังมีเวลา โดยจะรอปรึกษา พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้าพรรคก่อนว่าจะประชุมกันในวันไหน
ส่วนเรื่องต้องให้เกียรติปารีณาในการคัดเลือกผู้สมัครหรือไม่นั้น ชัยวุฒิระบุว่าก็ต้องพูดคุยกัน เพราะปารีณาเป็นคนในพื้นที่ รู้ว่าใครเป็นอย่างไร เหมาะสมหรือไม่ ก็ต้องฟังความเห็นปารีณาด้วย ส่วนความมั่นใจว่าจะสามารถรักษาเก้าอี้ไว้ได้หรือไม่ เพราะพรรคพลังประชารัฐมักจะแพ้การเลือกตั้งซ่อม ชัยวุฒิระบุว่าที่ชนะก็มีหลายพื้นที่ การเลือกตั้งมีทั้งแพ้และชนะ คิดว่าจะทำให้ดีที่สุด แต่เชื่อว่าในจังหวัดราชบุรีเป็นจังหวัดที่พรรคพลังประชารัฐมี ส.ส. หลายคน มีคะแนนนิยมดีในจังหวัดนี้ เชื่อว่าจะรักษาพื้นที่ไว้ได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า หลังศาลพิพากษาหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคได้พูดคุยกับปารีณาหรือไม่ ชัยวุฒิกล่าวว่ายังไม่มีการพูดคุย แต่ตนมีความเป็นห่วงและให้กำลังใจปารีณา เท่าที่ติดตามข่าวปารีณาก็ไม่ได้มีเจตนาจะกระทำความผิด แต่เป็นเงื่อนไขตามรัฐธรรมนูญที่มีเรื่องจริยธรรมเข้ามา ทำให้ปารีณามีความผิดในเรื่องนี้ ซึ่งทุกคนก็น้อมรับยอมรับคำตัดสินของศาล พร้อมย้ำว่าเห็นใจปารีณา เพราะเป็นคนที่ตั้งใจทำงานในพื้นที่ ดูแลประชาชน มีบทบาทในสภา ทำหน้าที่ได้ดี ยอมรับว่าเสียดายโอกาสในการทำงานของปารีณา
ส่วนกรณีมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่านักรบพรรคพลังประชารัฐตายเรียบหมดแล้ว ชัยวุฒิกล่าวว่าก็ว่ากันไป จะเห็นอย่างหนึ่งว่าระบบศาลหรือกระบวนการยุติธรรม หรือองค์กรอิสระในประเทศไทยให้ความเป็นกลางทั้งฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาล หรือทุกคน ถ้ามีความผิดก็ต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย ไม่มีใครมีสิทธิพิเศษสั่งการอะไรได้ เป็นเรื่องตามกระบวนการ อยากให้ประชาชนเข้าใจว่าไม่ใช่ฝ่ายรัฐบาลหรือฝ่ายค้านโดน เป็นเรื่องของข้อกฎหมาย ข้อเท็จจริง ถือว่าระบบยุติธรรมทำหน้าที่ตรงไปตรงมา สร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนได้ดี
ส่วนปารีณาจะมีโอกาสมาช่วยงานพรรคในอนาคตหรือไม่ ชัยวุฒิกล่าวว่า ตนไม่ทราบ ต้องไปถามปารีณา แต่โดยหลักการหากโดนตัดสิทธิการเมืองก็ไม่สามารถเป็นสมาชิกพรรคได้ แต่ถ้าช่วยเป็นที่ปรึกษา ช่วยแนะนำก็คงทำได้ ส่วนจะให้ช่วยงานเบื้องหลังหรือไม่ตนไม่ทราบ แต่คิดว่าคงไม่ทำเบื้องหน้าเบื้องหลัง ก็ต้องมองว่าปารีณาเป็นประชาชนคนหนึ่งที่มีความรู้ความเข้าใจในปัญหาบ้านเมืองหรือในพื้นที่ของตัวเอง ก็คงจะช่วยประชาชนได้ระดับหนึ่ง
