ยูเครนเปิดเผยว่าเข้ายึดพื้นที่รอบกรุงเคียฟคืนได้ทั้งหมดแล้ว ขณะที่รัสเซียถอนกำลังออกจากเมืองสำคัญต่างๆ และมุ่งเป้าไปที่การยึดพื้นที่ทางตะวันออกและทางใต้ของยูเครน
ฮันนา มัลยาร์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมของยูเครน เปิดเผยในวันเสาร์ (2 เมษายน) ว่า “ภูมิภาคเคียฟทั้งหมดได้รับการปลดปล่อยจากผู้รุกราน”
อย่างไรก็ดี สำนักข่าวต่างประเทศหลายสำนัก ซึ่งรวมถึง BBC รายงานว่ายังไม่สามารถยืนยันคำกล่าวอ้างดังกล่าวได้
ทั้งนี้ กองกำลังยูเครนยึดพื้นที่รอบเมืองหลวงคืนในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ในขณะที่รัสเซียถอนกำลังออก โดยรัสเซียระบุว่าการถอนกำลังใกล้กรุงเคียฟ เป็นการแสดงเจตนาที่ดีว่ารัสเซียต้องการเจรจาสันติภาพ แต่บรรดานักวิเคราะห์จากชาติตะวันตกแย้งว่า การถอนกองกำลังนั้นเกิดขึ้นในขณะที่การรุกรานของรัสเซียนั้นหยุดชะงักอยู่แล้ว และไม่สามารถรุกคืบไปต่อได้
ด้านประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ของยูเครน กล่าวผ่านทางวิดีโอว่า ทหารยูเครนไม่ได้ปล่อยให้ทหารรัสเซียล่าถอยกลับไปง่ายๆ โดยไม่มีการต่อสู้ พร้อมทั้งเผยว่าทหารรัสเซียถอนกำลังออกไปพร้อมกับ ‘หายนะ’ สำหรับชาวยูเครน โดยการทิ้งทุ่นระเบิดไว้รอบๆ บ้านเรือน เศษซากปรักหักพังต่างๆ และศพของพลเรือนที่ถูกสังหาร
ผู้นำยูเครนระบุด้วยว่า กองกำลังของรัสเซียต้องการยึดพื้นที่ทางตะวันออกและทางใต้ของประเทศ โดยกล่าวว่า รัสเซียมีกองกำลังเพียงพอที่จะกดดันภาคตะวันออกและภาคใต้ของยูเครนมากขึ้น
“เป้าหมายของกองทัพรัสเซียคืออะไร? พวกเขาต้องการยึดดอนบาส และทางตอนใต้ของยูเครน” เซเลนสกีกล่าว “เป้าหมายของเราคืออะไร? เพื่อปกป้องตนเอง เสรีภาพของเรา แผ่นดินของเรา และประชาชนของเรา”
ยูเครนและพันธมิตรตะวันตกรายงานว่า มีหลักฐานมากขึ้นว่ารัสเซียถอนกำลังออกจากพื้นที่รอบกรุงเคียฟ และสร้างกำลังพลในยูเครนตะวันออก ขณะที่นักวิเคราะห์ทางทหารเชื่อว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย มุ่งมั่นที่จะยึดครองภูมิภาคนี้ หลังจากที่กองกำลังของเขาล้มเหลวในการยึดเคียฟ และเมืองสำคัญอื่นๆ
รายงานข่าวระบุว่า ทหารยูเครนเคลื่อนตัวอย่างระมัดระวังเพื่อยึดคืนพื้นที่ทางตอนเหนือของเมืองหลวงของประเทศเมื่อวันเสาร์ โดยใช้สายเคเบิลดึงศพพลเรือนออกจากถนนสายหนึ่งในเมือง เนื่องจากเกรงว่ากองกำลังรัสเซียอาจทิ้งทุ่นระเบิดไว้
ขณะที่ในเมืองบูชา ใกล้กับกรุงเคียฟ กองกำลังยูเครนเพิ่งจะเข้าพื้นที่ได้ในช่วง 1-2 วันที่ผ่านมา หลังจากที่ไม่สามารถเข้าพื้นที่ได้เป็นเวลาเกือบหนึ่งเดือน เพราะถูกทหารรัสเซียยึดครอง
สื่อต่างชาติจำนวนหนึ่งซึ่งได้เข้าไปทำข่าวในเมืองบูชาหลังจากที่รัสเซียถอนทหารออก รายงานว่าพบหลักฐานการสังหารพลเรือน โดยสำนักข่าว AFP รายงานว่า พบศพอย่างน้อย 20 ศพเกลื่อนถนนบนถนนสายเดียว ส่วน AP นับได้อย่างน้อย 6 ศพ ขณะที่นักข่าว BBC ยืนยันการสังหารพลเรือนอย่างน้อยสองคนบนทางหลวงที่มุ่งสู่เมืองหลวง
ด้านนายกเทศมนตรีเมืองบูชาเผยว่า มีศพถูกฝังอยู่ในสุสานหมู่ 280 ศพ และเมืองนี้เกลื่อนไปด้วยซากศพ
ภาพ: Anastasia Vlasova / Getty Images
อ้างอิง: