ควอเตอร์แรกของปีผ่านไปไวเหมือนโกหก สำหรับสามเดือนแรกนี้ แวดวงละครทีวีไทยยังค่อนข้างเงียบเหงา ที่เห็นจะมีกระแสอยู่บ้างก็อย่างผลงานทั้งสองเรื่องของ ใบเฟิร์น-พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์ ทั้ง สร้อยสะบันงา ทางช่อง 3 และ สิเหน่หาส่าหรี่ ทางช่อง one 31 แต่สำหรับโค้งสุดท้ายปลายเดือนมีนาคม หลายช่องเปิดผังละครใหม่ ซึ่งภาพรวมจะเห็นการหยิบยกประเด็นใหม่ๆ เข้ามาสร้างสีสัน แม้จะยังเดินตามแนวทางเมโลดราม่าสไตล์ละครไทยอยู่ก็ตาม 

ซ่านเสน่หา

ทำให้เดือนเมษายนนี้แวดวงละครทีวีดูมีความหลากหลายมากทีเดียว เหมือนจะใจตรงกันระหว่างช่อง 3 และช่อง one31 ที่เปิดโผละครบาดเลือดแค้นกลิ่นอายความเป็นจีนในคืนวันจันทร์-อังคาร ทั้ง ซ่านเสน่หา และ พิษรักรอยอดีต โดย ซ่านเสน่หา เป็นการพลิกบทบาทของ มิ้นต์-ชาลิดา วิจิตรวงศ์ทอง จากบทใสๆ สู่บทดราม่าเต็มตัว กับบท ‘ลลิตา’ สาวออฟฟิศผู้ทุกข์ทนกับการเป็นลูกสาวและสะใภ้จีน โดยสองตอนแรกอัดแน่นด้วยบทสนทนาที่ว่าด้วยกฎหมายคุ้มครองสตรีจากความรุนแรงในครอบครัว เพราะตัวละครถูกข่มเหงรังแกจากทั้งสามีและแม่สามี ครั้นจะหวังพึ่งครอบครัวตัวเอง ผู้เป็นพ่อก็หัวโบราณ มีความเชื่อฝังหัวว่าผู้หญิงเป็นได้แค่เมีย และไม่มีสิทธิเรียกร้องอะไรเลย ทำให้เธอต้องลุกขึ้นมาสู้ด้วยตัวเอง 

เรื่องนี้หยิบยกประเด็นเรื่องสิทธิสตรีและปัญหาที่เกิดขึ้นในสังคมชายเป็นใหญ่ โดยย้ำประเด็นนี้ผ่านชีวิตนางเอก และบุคคลรอบข้างซึ่งก็น่าสนใจดี ผิดก็แต่บางเหตุการณ์แลดูเกินจริง และตัวละครออกจะสีขาวจัด ดำจัด ไร้มิติ

ซ่านเสน่หา 

เรือนเบญจพิษ 

ส่วน พิษรักรอยอดีต มาในแนวทางเดียวกับ เรือนเบญจพิษ และ เรือนไหมมัจจุราช ที่หยิบเอาศาสตร์ของจีนมาสร้างสีสันให้เรื่องราว ซึ่งคราวนี้นำศาสตร์การฝังเข็มมาเป็นเครื่องมือแก้แค้นให้กับผิง ซึ่งรับบทโดย มารี เบิร์นเนอร์ ที่ลงทุนแต่งหน้าเอฟเฟกต์เป็นหญิงอ้วน หลานสาวเจ้าของร้านยาจีน ซึ่งในร้านมีสมบัติล้ำค่านั่นก็คือ สมุนไพร และกระเพาะปลาราคาแพง

เฟย (อาร์ต–พศุตม์ บานแย้ม) สามี และ นิสา (บี-น้ำทิพย์ จงรัชตวิบูลย์) พี่สาวคนสนิทของผิงจึงออกอุบายฮุบทุกอย่าง จนทำให้ครอบครัวของผิงพบกับหายนะ สุดท้ายผิงกลับมาด้วยรูปลักษณ์ใหม่ในชื่อเมย์ พร้อมทั้งศึกษาศาสตร์การฝังเข็มเพื่อล้างแค้นคนที่เคยกระทำกับเธอ สองตอนแรกเปิดฉากเรื่องราวด้วยการปูพื้นตัวละคร และกำลังเข้าสู่การล้างแค้น งานนี้น่าจะมีความเวอร์วังกำลังภายในตามสไตล์ช่อง one 31 แน่นอน 

เวลากามเทพ 

ขณะที่คืนวันพุธ-พฤหัสบดี ช่อง one 31 หยิบเอาเรื่องราวของเกย์มาสร้างสีสันให้กับ เวลากามเทพ ด้วยการผูกเงื่อนปมรักสามเส้าระหว่างพี่น้องและหญิงสาวที่ก้าวเข้ามาในครอบครัว โดยว่าด้วยเรื่องราวของธัชผู้เป็นพี่ชาย (ทอย-ปฐมพงศ์ เรือนใจดี) เกย์หนุ่มที่จำต้องแต่งงานกับนุช (เฟิร์น-นพจิรา ฤกษ์ขจรนามกุล) เพื่อให้เป็นไปตามพินัยกรรม โดยที่ไม่รู้ว่าก่อนหน้านี้ นุช และ ธาม (ตรี-ภรภัทร ศรีขจรเดชา) ผู้เป็นน้องชายเคยสานสัมพันธ์กันมาก่อน จนกลายเป็นเรื่องราวดราม่าทั้งรักทั้งชังตามสูตรละครไทย 

เวลากามเทพ 

กลับมาที่ฝั่งช่อง 3 กับความท้าทายใหม่ด้วยการนำละครวาย คุณหมีปาฏิหาริย์ มาลงในช่วงเวลาไพรม์ไทม์คืนวันศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ นับเป็นปรากฏการณ์ครั้งสำคัญ ที่สถานีโทรทัศน์อายุ 52 ปีไปหมาดๆ อ้าแขนต้อนรับเรื่องราวชายรักชายให้มาออกอากาศในช่วงเวลาที่คนดูมากที่สุดของช่อง ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสมตั้งแต่ยังไม่ออกอากาศ บ้างก็ว่ารับไม่ได้ที่เห็นผู้ชายจูบกัน หรือให้เอาไปฉายช่วงเวลาดึกๆ แบบซีรีส์วายเรื่องอื่นๆ ที่ผ่านมาของช่อง แต่ก็เกิดกระแสตีกลับทันทีว่านี่ปี 2022 แล้ว เรื่องความหลากหลายเป็นสิ่งที่ควรจะยอมรับได้แล้ว อีกอย่างวัฒนธรรมวายก็เป็นอู่ข้าวอู่น้ำของวงการบันเทิงไทยในยุคปัจจุบัน

คุณหมีปาฏิหาริย์ ออกอากาศตอนแรกไปเมื่อวันอาทิตย์ที่ 27 มีนาคมที่ผ่านมา โดยทางผู้จัดตั้งใจให้เป็นละครสะท้อนปัญหาครอบครัวมากกว่า ส่วนจะจิ้นหรือจะฟิน และเสนอเรื่องราวหนักๆ ทั้งประเด็นหนักๆ เรื่อง LGBTQ+ รวมถึงบทสนทนาวิจารณ์การเมืองเผ็ดร้อนต่างๆ ในเรื่อง เหมือนเวอร์ชันนิยายหรือเปล่า คงต้องรอติดตามกันอีกสักระยะ   

คุณหมีปาฏิหาริย์

KinnPorsche The Series 

ส่วนอีกหนึ่งซีรีส์วายฟอร์มใหญ่ KinnPorsche The Series ที่ขอออกนอกรั้วโรงเรียนและมหาวิทยาลัยมาว่าด้วยเรื่องวายในสังคมมาเฟีย และเป็นการกำกับซีรีส์วายเรื่องแรกของ โขม-ก้องเกียรติ โขมศิริ ผู้กำกับภาพยนตร์เรื่อง เฉือน และ ลองของ ซึ่งรับรองว่าเรื่องนี้จะมีทั้งความดิบ เถื่อน ไม่แพ้ผลงานเก่าๆ ของเขา ในขณะเดียวกันก็ยังมีช็อตจิ้นๆ ฟินๆ ที่จะมาพร้อมกับท่วงท่าแอ็กชันสาดกระสุนใส่กัน กลายเป็นส่วนผสมใหม่ๆ ที่ไม่เคยได้ดูจากซีรีส์วายในเมืองไทย KinnPorsche The Series ออกอากาศทางช่อง one 31 ทุกวันเสาร์ เวลา 22.30 น. และย้อนหลังแบบ Uncut บนแอปพลิเคชัน iQiyi

สรุปภาพรวมของละครไทยในเดือนที่จะถึงนี้ เลือกประเด็นได้ดี เพียงแต่ยังติดกับการเดินเรื่องแบบเดิมๆ ไปสักหน่อย ซึ่งถ้าลองหลุดจากกรอบเมโลดราม่าใส่ความซับซ้อนของตัวละคร ให้สอดไปกับประเด็นที่เลือกมาก็น่าจะทำให้เนื้อหาดูน่าสนใจกว่านี้ ส่วนซีรีส์วายนั้นหายห่วงเพราะเดินหน้าไปไกล และมีมิติใหม่มาเซอร์ไพรส์อยู่เรื่อยๆ ส่วนคนดูชอบแนวไหน กดดูกันได้เลยตลอดเดือนเมษายนนี้