*บทความนี้เปิดเผยเนื้อหาบางส่วนของซีรีส์*
หลังจากซีรีส์เรื่อง คุณหมอครับ ผมมารับวิญญาณคนไข้ ออกอากาศไปเมื่อวันพุธที่ผ่านมา (23 มีนาคม) ซีรีส์วายเรื่องล่าสุดจาก Studio Wabi Sabi ก็ได้มอบประสบการณ์แปลกใหม่ให้กับผู้ชมได้ตั้งแต่เริ่มต้น ด้วยเรื่องราวระหว่างศัลยแพทย์หนุ่มและยมทูต
แม้พล็อตเรื่องเกี่ยวกับยมทูตอาจไม่ใช่เรื่องใหม่ในวงการซีรีส์ไทยและต่างประเทศ แต่ซีรีส์เรื่องนี้กำลังพาเราไปพบกับความน่าสนใจเกี่ยวกับความขัดแย้งของ ‘หมอ’ และ ‘ยมทูต’ ซึ่งมีหน้าที่ต่างกันสุดขั้ว
ในขณะที่ยมทูตหนุ่มอย่าง B88 (กานต์-กษิดิ์เดช หงส์ลดารมภ์) คือผู้ทำหน้าที่รับวิญญาณของคนที่เสียชีวิต ปราการ (นัท-ณัชพล รัตนมงคล) ศัลยแพทย์ของโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ต้องทำหน้าที่รักษาชีวิตของคนไข้เอาไว้ให้ได้ ความขัดแย้งของทั้งสองคนจึงเกิดขึ้น ท่ามกลางเรื่องราวของความเป็นและความตายที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
ความน่าสนใจของอีพีแรกคือการเล่าถึงความสัมพันธ์ของสองตัวละครหลักได้อย่างรวดเร็วในเวลาเพียง 5 นาที กับฉากแรกในห้องผ่าตัดของโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ในขณะที่ปราการกำลังผ่าตัดคนไข้ในการดูแลของเขาอย่างสุดความสามารถ ชายหนุ่มในชุดสูทสีดำที่มีดวงตาหม่นหมองชวนหดหู่ก็ปรากฏตัวขึ้น โดยมีเพียงปราการเท่านั้นที่มองเห็นเขา
“คุณหมอครับ ผมมารับวิญญาณคนไข้”
การปราฏตัวของ B88 หรือที่เขาเรียกว่า ‘ตั๋วผี’ คือสัญญาณของความผิดหวังที่บ่งบอกว่าความพยายามหลายชั่วโมงในห้องผ่าตัดของปราการกำลังจะสูญเปล่า
แต่ถึงอย่างนั้นไม่ว่ากี่ครั้งต่อกี่ครั้ง เขาก็ยังยืนหยัดในการทำหน้าที่ของตัวเองจนวินาทีสุดท้าย
เพราะสำหรับปราการแล้ว ‘หมอคือนักสู้กับความตาย’ เขาจึงสู้อย่างสุดกำลัง แม้ปลายทางที่รออยู่จะไม่สำเร็จอย่างที่ตั้งใจก็ตาม
“ไม่มีใครโอเคกับความตายหรอก แม้แต่หมอ แต่วิธีการของเราไม่เหมือนคนอื่น เพราะเราสู้”
เรื่องราวในอีพีแรกยังให้ความสำคัญกับการนำผู้ชมไปทำความรู้จักกับหมอปราการเป็นหลัก โดยตลอดระยะเวลากว่า 40 นาที ซีรีส์ค่อยๆ ทำให้เราตกหลุมรักกับความมุ่งมั่นในวิชาชีพแพทย์และการรักษาคนไข้ของปราการ
จากเหตุการณ์รถโดยสารสาธารณะตกทางยกระดับ ทำให้มีผู้บาดเจ็บสาหัสจำนวนมาก แต่เพราะรถพยาบาลที่มีไม่มากพอ คนไข้จำนวนหนึ่งจึงมาถึงมือหมอช้าเกินไป ปราการจึงตัดสินใจยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการของโรงพยาบาลเพื่อจัดซื้อรถพยาบาลเพิ่ม ด้วยความหวังว่าถ้าหากมีรถพยาบาลมากพอ คนไข้ก็จะมาถึงโรงพยาบาลได้เร็วขึ้น โอกาสในการรอดชีวิตก็มากขึ้นตามไปด้วย
แต่แล้วคำขอของเขาก็โดนปัดตกไป ด้วยเหตุผลว่ายังไม่ใช่เรื่องที่เร่งด่วนมากพอ ปราการจึงเดินออกจากห้องประชุมด้วยความผิดหวัง และทำได้เพียงคิดหาหนทางกับตัวเองว่าเขาในฐานะหมอจะสามารถทำอะไรเพื่อคนไข้ได้มากกว่านี้
ทั้งนี้ในอีพีแรกของซีรีส์ยังสามารถถ่ายทอดแก่นหลักของเรื่องที่ว่าด้วย ‘ความไม่แน่นอนในชีวิต’ ออกมาได้อย่างดี ด้วยเรื่องราวของประจักษ์ ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถโดยสารตกทางยกระดับ
ประจักษ์คือพ่อของเด็กหญิงคนหนึ่งซึ่งเป็นคนไข้ของโรงพยาบาล โดยปราการมักพบเห็นเขามาเยี่ยมลูกสาวด้วยใบหน้ายิ้มแย้มอยู่เป็นประจำ ประจักษ์เฝ้ารอวันที่ลูกสาวจะหายเป็นปกติอย่างมีหวัง แต่สุดท้ายเขาก็ประสบอุบัติเหตุและจากไปเสียก่อน
สิ่งนี้ทำให้ทั้งปราการและผู้ชมอย่างเรารู้สึกหดหู่ใจเป็นอย่างมาก ทั้งนี้เรื่องราวของประจักษ์ยังย้ำเตือนกับเราได้อย่างดีว่า ชีวิตไม่เคยมีความแน่นอน คนที่พึ่งพบหน้ากันไป วันพรุ่งนี้ก็อาจไม่มีโอกาสได้เจอกันอีกแล้วก็ได้
แม้แก่นหลักของซีรีส์จะเต็มไปด้วยเรื่องราวดราม่า แต่ก็ยังหาจุดพักด้วยการใส่โทนคอเมดี้เข้ามาอย่างสม่ำเสมอ ทำให้เราพอจะอมยิ้มได้บ้าง หลังจากผ่านเหตุการณ์ชวนหดหู่ในเรื่องไป
นอกจากนี้ประโยคที่ยมทูตหนุ่มมักพูดทุกครั้งที่มารับวิญญาณว่า “ผมมารับดวงวิญญาณคุณไปสู่การเดินทางครั้งใหม่” ยังแอบแฝงไปด้วยคำปลอบโยนให้กับคนยังมีชีวิตอยู่เช่นกัน เพราะในอีกแง่หนึ่งคนที่จากไปอาจไม่ได้จากเราไปไกล เขาเพียงกำลังออกเดินทางไปในเส้นทางใหม่ที่เราจะไม่สามารถพบเจอกันได้อีกก็เท่านั้น
สุดท้ายแม้บางชีวิตจะจากไป แต่อีกหลายชีวิตก็ยังต้องอยู่ต่อไปให้ได้
ติดตามซีรีส์ คุณหมอครับ ผมมารับวิญญาณคนไข้ ทุกวันพุธ เวลา 23:00 น. ทางช่อง GMM25 และเวลาเที่ยงคืน ทาง iQIYI
