×

เตรียมเงินไว้ให้พร้อมสำหรับ 2018 ปีทองของหนังภาคต่อและภาคแยกที่เข้าคิวฉายกันแทบทุกเดือน

04.01.2018
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

8 Mins read
  • เป็นปีที่หนังไทยยังไม่ค่อยประกาศโปรเจกต์ใหม่ๆ มากเท่าไรนัก นอกจากแอนิเมชันอย่าง ๙ ศาสตรา, Samui Song ของเป็นเอก รัตนเรือง, Brother & Sister ของ GDH และ ขุนพันธ์ 2 ของก้องเกียรติ โขมศิริ
  • แต่ทางฝั่งฮอลลีวูดกลับคึกคักเป็นพิเศษ เพราะขนหนังบล็อกบัสเตอร์ฟอร์มใหญ่มากวาดเงินเข้ากระเป๋ากันแทบทุกเดือน โดยเฉพาะบรรดาหนังภาคต่อและหนังภาคแยกของตัวละครต่างๆ ที่เรายกให้เป็นปีทองของหนังแฟรนไชส์แนวนี้ไปเลย

นอกจากคอนเสิร์ตจากศิลปินระดับโลกที่ตบเท้าเข้ามาดูดเงินในกระเป๋ากันแบบไม่ให้หยุดพัก วงการภาพยนตร์ก็ไม่น้อยหน้า โดยเฉพาะทางฝั่งฮอลลีวูดที่ขนหนังบล็อกบัสเตอร์ฟอร์มใหญ่มากวาดเงินเข้ากระเป๋ากันแทบทุกเดือน ตั้งแต่ The Infinity War ที่เหล่า The Avengers จะได้ปะทะกับบอสใหญ่แห่งจักรวาลอย่างทานอส, การต่อสู้ของหุ่นยักษ์กับเหล่าไคจูใน Pacific Rim 2 ที่หายไปนานถึง 5 ปี, The Purge ภาค 4 ที่จะย้อนไปถึงวันที่ ‘คืนชำระบาป’ ยังเป็นแค่การทดลองในเกาะเล็กๆ และภารกิจที่เปลี่ยนจากวิ่งหนีไดโนเสาร์เป็นการช่วยพวกมันอพยพจากภัยภูเขาไฟระเบิดใน Jurassic World: Fallen Kingdom


รวมทั้งภาคแยกของตัวละครเด่นๆ ที่แฟนๆ เรียกร้องอยากชมมาตลอดอย่าง ฮาน โซโล, จีน เกรย์, แบล็ก แพนเทอร์, อควาแมน และบัมเบิลบี ก็มีให้ดูกันแบบสะใจ


แต่ฝั่งหนังไทยอาจจะดูเงียบๆ ไปสักหน่อย เพราะทางค่ายหนังยังไม่เปิดเผยรายละเอียดในปีนี้มากนัก นอกจาก ๙ ศาสตรา แอนิเมชันฝีมือคนไทยที่ทุ่มทุนสร้าง 200 ล้านบาท, Samui Song ไม่มีสมุยสำหรับเธอ หนังยาวลำดับที่ 10 ของเป็นเอก รัตนเรือง, Brother & Sister ของ GDH และ ขุนพันธ์ 2 ของก้องเกียรติ โขมศิริ ที่พอจะทำให้แฟนหนังไทยอย่างเราตื่นเต้นขึ้นมาได้บ้าง

 

หนังไทยแอนิเมชันเรื่องใหญ่ กับการฉลองครบรอบ 20 ปีของเป็นเอก รัตนเรือง

 

       

๙ ศาสตรา  (เข้าฉาย 11 มกราคม) ต้อนรับปีใหม่ด้วยแอนิเมชันฟอร์มยักษ์จากประเทศไทยที่ใช้เวลาถ่ายทำนานเกือบ 5 ปี โดยสองผู้กำกับไฟแรง กันย์ พันธ์สุวรรณ และณัฐ ยศวัฒนานนท์ ที่ประเดิมผลงานเรื่องแรกด้วยการทุ่มทุนสร้างมากกว่า 200 ล้านบาท ทั้งยังใส่ใจทุกรายละเอียดจนกลายเป็นแอนิเมชันฝีมือคนไทยที่ภาพสวยและเนี้ยบจนน่าจะวัดกับแอนิเมชันจากต่างชาติได้เลยทีเดียว

           
เนื้อเรื่องจะเล่าถึง อ๊อด เด็กหนุ่มที่มีมวยไทยอยู่ในสายเลือด กับการผจญภัยเพื่อปฏิบัติภารกิจกอบกู้อาณาจักรรามเทพนคร โดยต้องใช้อาวุธที่ติดตัวมาทั้งหมัด เท้า เข่า ศอก และจิตใจที่แข็งแกร่งผนึกเป็นอาวุธทั้ง 9 ร่วมกับเพื่อนพ้องร่วมภารกิจ ยอดฝีมือผู้เชี่ยวชาญศิลปะการต่อสู้ตามยุทธวิถีตะวันออกอย่าง เสี่ยวหลาน สลัดอากาศชาวจีน และวาตะ อสูรสีชาดร่างใหญ่ใจดีผู้เปี่ยมไปด้วยคุณธรรม

 

Samui Song ไม่มีสมุยสำหรับเธอ (เข้าฉาย 1 กุมภาพันธ์) ต่อกันที่ผลงานภาพยนตร์ลำดับที่ 10 ของผู้กำกับรุ่นใหญ่ เป็นเอก รัตนเรือง ที่หลังจากพักไปทำภาพยนตร์สารคดีการเมืองอย่าง ประชาธิป’ไทย เมื่อปี 2556 คราวนี้เขากลับมาพร้อมกับลายเซ็นหนังฟิล์มนัวร์แบบที่ตัวเองถนัด โดยหยิบเรื่องการต่อสู้ของหญิงสาวที่ถูกกดขี่จากสภาพสังคมและชีวิตคู่จนต้องหาทางทำอะไรสักอย่างเพื่อ ‘ดีล’ กับสภาวะที่ตัวเองเป็นอยู่

           
โดยคราวนี้เป็นเอกได้กลับมาร่วมงานกับ พลอย-เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์ อีกครั้ง หลังจาก เรื่องรัก น้อยนิด มหาศาล เมื่อ 14 ปีที่แล้ว พร้อมอีกสองนักแสดงมากฝีมืออย่าง เดวิด อัศวนนท์ และปู-วิทยา ปานศรีงาม ร่วมแสดงนำ

 

 

Brother & Sister ผลงานเรื่องใหม่จากค่าย GDH ที่ได้ 3 ซูเปอร์สตาร์อย่าง ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์, ญาญ่า-อุรัสยา เสปอร์บันด์ และนิชคุณ หรเวชกุล มาร่วมงานกันเป็นครั้งแรก โดยหนึ่งในผู้กำกับแฟนฉัน บอล-วิทยา ทองอยู่ยง รายละเอียดส่วนใหญ่ยังไม่มีการเปิดเผย นอกจากเป็นภาพยนตร์โรแมนติก-คอเมดี้ งานถนัดของ GDH แต่แค่เห็นชื่อนักแสดงนำระดับนี้ก็ไม่ธรรมดาแล้ว

           
นอกจากนี้ในช่วงกลางปี เราอาจจะได้เห็นหนังสารคดีตามติดโครงการก้าวคนละก้าวเพื่อ 11 โรงพยาบาลทั่วประเทศ ของตูน บอดี้สแลม อย่างใกล้ชิด ตลอดเวลาเกือบ 3 เดือนตั้งแต่เริ่มเตรียมตัวจนกระทั่งสิ้นสุดการวิ่ง 2,191 กิโลเมตร พร้อมยอดเงินบริจาคทั่วประเทศอีก 1,200 ล้านบาทจากค่ายนี้ด้วยเช่นกัน


และเป็นไปได้ว่าปลายปี 2018 เราอาจได้ชมผลงานภาพยนตร์เรื่องใหม่จากฝีมือการกำกับของ โอ๋-ภาคภูมิ วงศ์ภูมิ กันในที่สุด หลังจากกำกับหนังสั้น ฝนตกที่ห้วยขาแข้ง ในปี 2558 ได้อย่างน่าปลาบปลื้มใจ


ขุนพันธ์ 2 (มีกำหนดฉายช่วงเดือนสิงหาคม) เปิดตัวด้วยประโยคคลาสสิก “ถ้ามึงสัญญาว่าจะเลิกเป็นเสือแล้วไปบวชซะ กูจะจับเป็นมึง” ของขุนพันธรักษ์ราชเดชเหมือนกับภาคที่แล้ว แต่คราวนี้ ก้องเกียรติ โขมศิริ ผู้กำกับสายโหด เลือกสังเวียนการต่อสู้ครั้งใหม่ของ ‘ขุนพันธ์’ ที่รับบทโดย อนันดา เอเวอริงแฮม ให้จับคู่กับ เป้-อารักษ์ อมรศุภศิริ ในบท เสือใบ อีกหนึ่งคู่ปรับคนสำคัญที่กลายเป็นตำนานสะท้านประเทศมาหลายสิบปี  

 

ฮอลลีวูดกับปีทองของหนังภาคต่อและภาคแยกของตัวละครหลัก

 

      

Insidious: The Last Key (เข้าฉาย 5 มกราคม) เริ่มต้นปีด้วยความสยองขวัญภาคที่ 4 ของซีรีส์ชุด Insidious เราจะได้ย้อนกลับไปบ้านเก่าของด็อกเตอร์เอลิส เรนเนียร์ ผู้มีความสามารถติดต่อกับวิญญาณและคอยช่วยผู้คนจากภาคก่อนๆ ซึ่งคราวนี้สิ่งที่เธอจะต้องต่อกรด้วยคือ ‘สิ่งลึกลับที่มีนิ้วเป็นกุญแจ’ อันน่าสะพรึงกลัว

 

 

Maze Runner: The Death Cure (เข้าฉาย 25 มกราคม) บทสรุปของการ ‘ก้าว’ เพื่อหนีออกจากเขาวงกตที่ไม่มีใครอยากเข้าไป ครั้งนี้เหล่าผู้รอดชีวิตจะต้องเอาตัวรอดในเขาวงกตสุดท้ายที่เต็มไปด้วยแก้วและเหล็กที่ถูกควบคุมโดยองค์กร W.C.K.D. ซึ่งโหดร้ายและซับซ้อนที่สุดเท่าที่พวกเขาเคยเจอมา

 

          

Fifty Shades Freed (เข้าฉาย 9 กุมภาพันธ์) ภาคสุดท้ายของภาพยนตร์อีโรติกที่สร้างจากนิยายขายดีของ อี. แอล. เจมส์ ภาคนี้จะเป็นการสรุปความสัมพันธ์ที่น่าตั้งคำถามระหว่างมิสเตอร์เกรย์ที่มีรสนิยมทางเพศสุดแปลก และอนาสตาเซีย สาวน้อยไร้เดียงสาที่ค่อยๆ พัฒนาตัวเองจนเริ่มทัดเทียมมหาเศรษฐีหนุ่ม สุดท้ายทางออกที่แสนซับซ้อนของทั้งคู่จะจบแบบไหนกัน

 

 

Black Panther (เข้าฉาย 16 กุมภาพันธ์) หลังจากทำหน้าที่เป็นฝ่ายซัพพอร์ตทีม The Avengers อยู่นาน ถึงเวลาแล้วที่ราชาเสือดำ เจ้าชายแห่งวากานดาที่มีเขี้ยวเล็บจากแร่ไวเบรเนียมเป็นอาวุธจะได้มีเส้นเรื่องหลักเป็นของตัวเองเสียที ภาคนี้จะเล่าต่อจากเหตุการณ์ใน Captain America: Civil War เมื่อเจ้าชายทีชาลาได้ขึ้นครองประเทศ และต้องต่อสู้กับศัตรูภาคใหม่ในประเทศที่หากพลาดพลั้งขึ้นมาก็อาจกลายเป็นชนวนเหตุให้เกิดสงครามโลกครั้งใหม่ได้เลย

           

 

Tomb Raider (เข้าฉาย 16 มีนาคม) การรีบู๊ตจากต้นฉบับในปี 2001 ที่เป็นหนึ่งในบทสร้างชื่อจนเป็นภาพจำให้กับ แอนเจลินา โจลี หลังจากมองหา ลาล่า ครอฟต์ คนใหม่อยู่นาน ในที่สุดแจ็กพอตก็ไปออกที่ อลิเซีย วิกันเดอร์ ที่เพิ่งคว้ารางวัลออสการ์สาขานักแสดงสบทบหญิงยอดเยี่ยมจาก The Danish Girl เรายังไม่กล้าคอนเฟิร์มเรื่องหน้าหนังว่าจะออกมาดีอย่างที่คาดหวังหรือเปล่า แต่เรื่องแคสติ้งบทลาล่าคนใหม่ เราบอกได้เลยว่ามาถูกทาง

 

 

Pacific Rim Uprising (เข้าฉาย 23 มีนาคม) ปล่อยให้แฟนเหล่าเยเกอร์นักรบหุ่นเหล็กคิดถึงอยู่ 5 ปีเต็ม ในที่สุดภาคที่ 2 ของการต่อสู้ระหว่างมนุษย์กับเหล่าไคจู สัตว์ประหลาดจากท้องทะเลลึกได้ฤกษ์กลับมาอีกครั้ง โดยคราวนี้ได้นักแสดงหนุ่มอย่าง จอห์น โบเยกา ที่เพิ่งแจ้งเกิดจากมหาสงคราม Star Wars ภาคใหม่ มาเป็นแกนนำหลักในการปกป้องโลกครั้งนี้

         

           

X-Men: The New Mutants (เข้าฉาย 12 เมษายน) ถ้าดูจากตัวอย่างหนังที่ปล่อยออกมา ถึงแม้จะยังไม่เปิดเผยเนื้อเรื่องหลักมากนัก แต่ก็พอจะบอกได้ว่านี่คือ X-Men ภาคที่มีความ ‘หลอน’ มากที่สุดตั้งแต่เหล่ามนุษย์กลายพันธุ์เริ่มออกมาโลดแล่นในวงการภาพยนตร์ ภาคนี้จะเจาะลึกไปที่เหล่ามนุษย์กลายพันธุ์วัยเด็กที่ถูกจับเพื่อควบคุมพลัง ไม่ได้เน้นไปที่การควบคุมพลังและออกไปต่อสู้ แต่จะเจาะลึกไปที่การต่อสู้ภายในของทุกคนว่ามีความเจ็บปวดอะไรบ้างที่มนุษย์กลายพันธุ์ทุกคนต้องเผชิญ

 

          

Avengers: Infinity War (เข้าฉาย 4 พฤษภาคม) หนึ่งในหนังที่คนรอดูมากที่สุดในปี 2018 เพราะจะเป็นครั้งแรกที่ได้เห็นการต่อสู้ของทีม The Avengers กับบอสใหญ่จอมเผด็จการจักรวาลอย่างทานอส ซึ่งนอกจากการต่อสู้เข้มๆ แล้ว เราอยากให้จับตาดูกันให้ดี เพราะถ้าดูจากตัวอย่างหนังที่ปล่อยออกมาแล้ว ในภาคนี้น่าจะต้องมีหนึ่งในตัวละครสำคัญที่ต้องอำลาทีม The Avengers ไปตลอดกาล

 

 

Solo: A Star Wars Story (เข้าฉาย 24 พฤษภาคม) อีกหนึ่งเรื่องที่ทำให้โรงภาพยนตร์ในเดือนนี้ลุกเป็นไฟ เพราะเราจะได้เห็นการเจาะลึกชีวิตของ ‘นักเลง’ แห่งจักรวาลอย่างฮาน โซโล และคู่หูตัวป่วนอย่างชิวเบกกาแบบเจาะลึก โดยภาคนี้จะเล่าเรื่องย้อนไปถึงการผจญภัยของสองคู่ซี้ก่อนจะเกิดเรื่องราวในภาค A New Hope และการเผชิญหน้าครั้งแรกกับ แลนโด คาลริสเซียน คู่ปรับตัวแสบผู้ครองนครเมฆา

 

 

Untitled Deadpool Sequel (เข้าฉาย 1 มิถุนายน) การกลับมาของฮีโร่ที่เกรียนและป่วนประสาทมากที่สุด ที่กวนตั้งแต่ปล่อยตัวอย่างหนังที่ไม่บอกเนื้อหาอะไรเลย ทำให้ตอนนี้เรายังไม่สามารถพูดถึงเนื้อเรื่องหลักๆ ได้มากนัก แต่น่าจะเกรียนและมันไม่แพ้ภาคแรกแน่นอน

 

 

Ocean’s 8 (เข้าฉาย 8 มิถุนายน) ภาคเสริมจากแฟรนไชส์ Ocean’s 11-13 ที่เป็นคิวของน้องสาว เด็บบี้ โอเชียน น้องสาวอาชญากรตัวท็อป แดนนี่ โอเชียน นำทีมสาวๆ มาทำภารกิจที่ระห่ำและเท่ไม่แพ้พี่ชาย เนื้อเรื่องจะเป็นอย่างไรเรายังไม่รู้ แต่แค่เห็นชื่อนักแสดงอย่าง ซานดร้า บูลล็อก, เคต บลานเชตต์, เฮเลนา บอนด์แฮม คาร์เตอร์, มินดี้ คาลิง, ริฮานน่า และแอนน์ แฮทธาเวย์ ก็พอจะการันตีคุณภาพได้ไม่ยากแล้ว

 

 

Jurassic World: Fallen Kingdom (เข้าฉาย 22 มิถุนายน) อีกหนึ่งแฟรนไชส์ไม่มีวันตาย ถึงแม้ว่าไดโนเสาร์จะสูญพันธุ์จากโลกไปหลายพันล้านปีแล้วก็ตาม โดยภารกิจคราวนี้ไม่ได้อยู่ที่การวิ่งหนีไดโนเสาร์อย่างเดียว แต่เป็นการอพยพเหล่าไดโนเสาร์ออกจากเกาะจากการระเบิดของภูเขาไฟยักษ์โดยกลุ่ม ‘ผู้พิทักษ์ไดโนเสาร์’ แทน

 

  

 

The Purge: The Island (เข้าฉาย 4 กรกฎาคม) ดำเนินมาถึงปีที่ 4 ของคืนหลอนแห่งสหรัฐอเมริกาที่ทุกๆ อาชญากรรมได้รับอนุญาตให้กระทำได้ทุกอย่าง โดยภาคนี้เราจะย้อนเวลากลับไปยังจุดเริ่มต้นของ ‘คืนชำระบาป’ ที่ในวันนั้นยังเป็นแค่การทดลองบนเกาะเล็กๆ เท่านั้น

 

 

Ant-Man and the Wasp (เข้าฉาย 6 กรกฎาคม) ฮีโร่ตัวจิ๋วที่มาพร้อมแพ็กเกจคู่รัก คราวนี้เราจะไม่ได้เห็นบทบาทของแอนต์แมนในฐานะฮีโร่เพียงอย่างเดียว เพราะเราจะได้เห็นบทบาทของการเป็นสามีและพ่อของอีกหนึ่งซูเปอร์ฮีโร่ตัวป่วนที่ต้องทำภารกิจปกป้องโลกร่วมกับ The Wasp ภรรยาผู้เป็นที่รัก


Mission: Impossible 6 (เข้าฉาย 27 กรกฎาคม) ทอม ครูซ อีกหนึ่งคนที่ยืนยันว่าตราบเขาที่ยังมีแรง เขาจะยังพาสุดยอดสายลับอย่างอีธาน ฮันต์ ปีนตึก กระโดดเครื่องบิน และอีกสารพัดภารกิจเสี่ยงตายออกมาให้คนดูได้ชมกันอย่างแน่นอน

 

 

X-Men: Dark Phoenix (เข้าฉาย 2 พฤศจิกายน) อีกหนึ่งในตัวละครที่แฟนๆ อยากเห็นภาคแยกของเธอมากที่สุด สำหรับมนุษย์กลายพันธุ์หญิงที่มีพลังแข็งแกร่งที่สุดอย่าง จีน เกรย์ (รับบทโดย ไซมอน คินเบิร์ก) ในช่วงเวลาที่ได้เธอพลังสูงสุดจากฟีนิกซ์จนมีพลังอำนาจเพียงพอที่จะทำลายทุกสิ่งมีชีวิตที่เข้าใกล้

 

 

Mulan (เข้าฉาย 2 พฤศจิกายน) เรื่องนี้อาจจะไม่ใช่หนังภาคแยกหรือภาคต่อ แต่เป็นความตื่นเต้นของผู้เขียนเองล้วนๆ เพราะว่าเราจะได้เห็น หลิวอี้เฟย หรือคริสตัล หลิว ที่ผูกปิ่นโตกันมานานตั้งแต่รับบท เซียวเหล่งนึ่ง ในซีรีส์ มังกรหยก มารับบทเป็น มู่หลาน เวอร์ชันคนแสดงในครั้งนี้

 

 


Fantastic Beasts: The Crimes of Grindelwald (เข้าฉาย 16 พฤศจิกายน) ภาคนี้เราจะได้เห็นเนื้อเรื่องที่ไม่ได้เปิดเผยใน Harry Potter นอกจากความแฟนตาซีของเรื่องที่น่าติดตาม อีกอย่างที่เรายกให้เป็นไฮไลต์ของภาคนี้คือการต่อสู้ของนักแสดงระดับพระกาฬอย่าง จู๊ด ลอว์ ในบท อัลบัส ดัมเบิลดอร์ และจอห์นนี เดปป์ ในบท กรินเดวัลด์ ตัวร้ายแห่งโลกเวทย์กันแบบเต็มๆ

 

    

Aquaman (เข้าฉาย 21 ธันวาคม) หลังจากเปิดตัวในฐานะสมาชิกทีม Justice League ได้ไม่น่าประทับใจเท่าไร คราวนี้คือโอกาสแก้ตัวของผู้พิทักษ์แห่งแอตแลนติสที่จะกู้ชื่อเสียงของตัวเองกลับคืนมา ภาคแยกนี้จะเล่าถึงประวัติความเป็นมาของอาร์เธอร์ เคอร์รี ตั้งแต่วัยเด็ก ก่อนจะค้นพบพลังพิเศษและกลายมาเป็นฮีโร่ที่มีพลังเทียบเท่ากับซูเปอร์แมน (เมื่ออยู่ในน้ำ) ผู้คอยปกป้องมนุษย์โลกอย่างลับๆ

 

 

Bumblebee (เข้าฉาย 21 ธันวาคม) หลังจากอยู่สร้างสีสันและเสียงหัวเราะให้กับคนอื่นๆ อยู่นานตั้งแต่ Transformers ภาคแรกเมื่อ 10 ปีที่แล้ว คราวนี้เราจะได้เห็นภาคแยกที่พูดถึงชีวิตของเจ้าหุ่นเหลืองตัวนี้กันแบบเต็มๆ โดยจะย้อนเหตุการณ์ตั้งแต่ปี 1987 ที่บัมเบิลบีหนีภัยไปอยู่ในเมืองเล็กๆ ที่แคลิฟอเนียร์ ในฐานะโฟล์กเต่าคันเก่าคร่ำครึ ก่อนที่จะค่อยๆ เปิดเผยตัวจริงออกมา

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

X
Close Advertising