ตั้งแต่เปิดศักราชใหม่ปี 2565 เป็นต้นมา การลงทุนในตลาดคริปโตเคอร์เรนซีดูจะไม่สดใสเหมือนกับปีที่ผ่านมา เพราะบรรดาเหรียญคริปโตจำนวนมากปรับตัวร่วงลงรุนแรง จะมีก็เพียงสินทรัพย์ดิจิทัลในรูปของงานศิลปะผ่าน NFTs ที่ดูจะยังสร้างผลตอบแทนได้ดีสวนทางกับเหรียญคริปโตอื่นๆ
แต่การพุ่งทะยานขึ้นของราคา NFTs ก็นำไปสู่คำถามที่เกิดขึ้นภายในใจของหลายๆ คนว่า ตลาดนี้กำลังจะก่อตัวขึ้นเป็น ‘ฟองสบู่’ แล้วหรือไม่ แล้วสถานการณ์การลงทุนใน NFTs จากนี้ไปจะเป็นอย่างไร ‘โอกาส’ และ ‘ความเสี่ยง’ อยู่ตรงไหน ทีมข่าว THE STANDARD WEALTH จะพาไปหาคำตอบกัน
NFTs หรือ Non-Fungible Token เป็นระบบเหรียญไว้นำมาเเลกเปลี่ยนมูลค่าของชื่อเสียง งานศิลปะ หรือคอนเทนต์พิเศษๆ ซึ่งตลาดศิลปะดิจิทัล NFTs ในช่วงที่ผ่านมามีการเติบโตขึ้นอย่างมาก ทำให้นักสะสมภาพหรือศิลปินที่ออกแบบภาพเหล่านี้ร่ำรวยขึ้นอย่างมหาศาล
โดยภาพคอลเล็กชันอย่าง Bored Ape Yacht Club ที่ จัสติน บีเบอร์ พึ่งซื้อไปในมูลค่ากว่า 1.29 ล้านดอลลาห์ (หรือราว 42 ล้านบาท) ถือเป็นราคาที่สูงกว่าราคาตลาดถึงกว่า 3 เท่าตัว
นอกจากนี้เมื่อปลายปีที่แล้ว (2 ธันวาคม 2564) ยังมีผลงานอย่าง Pak’s The Merge ที่เคยมีการซื้อขายในระดับราคาที่ 91.8 ล้านดอลลาห์ (ราว 3 พันล้านบาท) และยังมีภาพศิลปะอีกจำนวนมากที่ซื้อขายกันในระดับราคาหลายล้านดอลลาห์
การซื้อขายในราคาที่มีมูลค่ามหาศาลดังกล่าว จึงเลี่ยงไม่ได้ที่จะถูกตั้งคำถามว่า ตลาดนี้กำลังสร้างฟองสบู่ลูกโตขึ้นมาหรือไม่?
เรื่องนี้ทางนักวิเคราะห์ได้ออกมาแสดงความเห็นในมุมหนึ่งว่า ผลงานดังกล่าวเป็นงานศิลปะ ส่งผลให้การซื้อขายผลงานเหล่านั้นในมุมมองของนักสะสมจะมาจากความพอใจเป็นหลัก และผลงานจำนวนมากต่อให้มีการตั้งราคาซื้อขายที่ต่ำลงมา แต่ผู้สะสมก็มักจะไม่ได้ขายออกมาแต่อย่างใด ซึ่งแตกต่างจากการซื้อขายคริปโตหรือสินทรัพย์อย่างหุ้นโดยสิ้นเชิง ทำให้ระดับราคาของผลงาน NFTs จำนวนมากเหล่านั้นไม่ได้ตกลงมาแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์อีกฝ่ายหนึ่งมองว่า ปรากฏการณ์ดังกล่าวนับว่าเป็นฟองสบู่ที่รอวันแตก จากการที่ผลงานจำนวนมากไม่ได้มีความต้องการอยู่จริง หากแต่เป็นแรงเก็งกำไรที่ไม่ใช่นักสะสมอย่างแท้จริงที่ซื้อผลงานบางชนิดมาเพื่อนำไปขายต่อในราคาที่แพงขึ้น และจากปัจจัยมหภาคที่เข้ามาสนับสนุนก็ทำให้เงินที่เหลืออยู่ในระบบเข้าไปมีส่วนในตลาด NFTs เช่นกัน
ถึงอย่างนั้นเองฟองสบู่ลูกดังกล่าวก็ยังไม่มีท่าทีจะแตกแต่อย่างใด เนื่องจากภาพศิลปะจำนวนมากที่ซื้อไปแล้วไม่ได้มีสภาพคล่องดังเช่นที่เป็นในเหรียญคริปโตอื่นๆ ที่มีการซื้อขายตลอดเวลา ประกอบกับมีสัญญาล่วงหน้าผูกบนเหรียญนั้นๆ เมื่อมีการเทขายเกิดขึ้นเมื่อใดก็จะปรับตัวอย่างทันที ส่งผลกระทบต่อเนื่องเป็นลูกโซ่ จนนำไปสู่การแตกลงของฟองสบู่ ซึ่งหากวันใดก็ตามที่ผลงาน NFTs ถูกเทขาย ออกมาโดยนักเก็งกำไรจำนวนมากจากเหตุผลใดก็ตาม ลูกโซ่ของฟองสบู่การเก็งกำไรที่กำลังเป็นอยู่ในขณะนี้ก็อาจจะจบลงได้เช่นกัน
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP