ยอดขายที่ดินบนแพลตฟอร์ม Metaverse 4 แพลตฟอร์มหลัก มีมูลค่ากว่า 500 ล้านดอลลาร์ หรือกว่า 1.7 หมื่นล้านบาทในปีที่ผ่านมา ตามข้อมูลของ MetaMetric Solutions โดยคาดการณ์ว่ายอดขายจะสูงถึงเกือบ 1 พันล้านดอลลาร์ในปี 2022
รายงานจาก BrandEssence ชี้ว่า ที่ดินบนแพลตฟอร์ม Metaverse จะเติบโตที่อัตรา 31% ต่อปีตั้งแต่ปี 2022-2028
Janine Yorio ซีอีโอของ Republic Realm บริษัทที่ปรึกษาและนักลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ Metaverse กล่าวว่า “แม้ (ที่ดินบนแพลตฟอร์ม Metaverse) จะมีความเสี่ยงสูง แต่อาจให้ผลตอบแทนมหาศาล”
Republic Realm เพิ่งจ่ายเงินเป็นประวัติการณ์ 4.3 ล้านดอลลาร์สำหรับที่ดินใน Sandbox ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มอสังหาริมทรัพย์ Metaverse ที่ใหญ่ที่สุด โดยที่ดินดังกล่าวจะถูกพัฒนาเป็นเกาะจำนวน 100 เกาะที่มีวิลล่าเป็นของตัวเอง ซึ่งเกาะ 90 แห่ง ขายวันแรกในราคา 15,000 ดอลลาร์ต่อเกาะ และบางเกาะได้รับการจดทะเบียนเพื่อขายต่อในราคามากกว่า 100,000 ดอลลาร์
ถึงจะมีแพลตฟอร์มใหม่ๆ เพิ่มขึ้นแทบทุกสัปดาห์สำหรับการขายที่ดินบนแพลตฟอร์ม Metaverse แต่ปัจจุบันมูลค่าส่วนใหญ่ถูกครอบครองโดย ‘บิ๊กโฟร์’ อันได้แก่ Sandbox, Decentraland, Cryptovoxels และ Somnium โดยมีที่ดินรวมกันทั้งหมด 268,645 ผืน
บริษัทต่างๆ และนักลงทุนจำนวนมากหลั่งไหลเข้าสู่ที่ดินบนแพลตฟอร์ม Metaverse ซึ่งมูลค่านั้นถูกกำหนดโดยการพัฒนาให้ออกมาอยู่ในรูปแบบต่างๆ เช่น การออกแบบสถานที่ท่องเที่ยว พิพิธภัณฑ์ หรือสถานที่ที่เป็นที่นิยมมากกว่าที่ตั้ง
Andrew Kiguel ซีอีโอของ Tokens.com ในโทรอนโต เพิ่งระดมทุนได้ 16 ล้านดอลลาร์ เพื่อลงทุนในที่ดินบน Metaverse ซึ่งเกือบทั้งหมดได้รับการจัดสรรเพื่อซื้อที่ดินและจ้างพนักงาน เมื่อเร็วๆ นี้บริษัทใช้เงิน 2.4 ล้านดอลลาร์เพื่อซื้อที่ดินในย่านแฟชั่นของ Decentraland ซึ่งบริษัทมีแผนจะจัดงานแฟชั่นและร้านค้าปลีก
ซีอีโอของ Tokens.com กล่าวว่า เขากำลังจะประกาศข้อตกลงกับแบรนด์เครื่องแต่งกายในอเมริกาเหนือ 2 แบรนด์ ซึ่งเขาเช่าพื้นที่ในทรัพย์สินของเขาเพื่อพัฒนาหน้าร้าน โดยเขาย้ำว่า โอกาสที่แท้จริงในดินแดน Metaverse คือธุรกิจเชิงพาณิชย์ เช่น การเช่าพื้นที่และจัดกิจกรรมสำหรับบริษัทที่ต้องการโฆษณาไปยังผู้ชมดิจิทัลที่อายุน้อยกว่า
“เรากำลังพูดคุยกับบริษัทต่างๆ เกี่ยวกับการวางป้ายโฆษณาดิจิทัลในห้องประชุมเสมือนที่ผู้คนสามารถพบปะกันได้” เขากล่าว
อ้างอิง:
