เมื่อ ‘วิดีโอสตรีมมิง’ ไม่สร้างความประทับใจให้กับนักลงทุนอีกต่อไป เกมนี้ต้องแก้อย่างไร?

ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมานี้ ‘ธุรกิจวิดีโอสตรีมมิง’ ได้เติบโตขึ้นแบบหวือหวา เข้ามาทดแทนบริการสื่อรูปแบบเดิมๆ นั่นคือ ระบบบอกรับสมาชิกของทีวี ที่เป็นอย่างนั้นเพราะการรับเงินสดของผู้บริโภคโดยตรงนั้นทำรายได้ให้มากกว่าธุรกิจแบบเก่า

ยิ่งการเกิดโรคโควิดระบาดเร่งผลักดันให้วิดีโอสตรีมมิงเติบโตเร็วขึ้น เนื่องจากผู้คนมองหาทางเลือกด้านความบันเทิงขณะติดอยู่ในบ้าน ทุกไตรมาสในปี 2020 และ 2021 Netflix, Disney, WarnerMedia ของ AT&T, Peacock ของ NBCUniversal, Paramount+ ของ ViacomCBS และบริการสตรีมมิงอื่นๆ มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง

ฐานสมาชิกเติบโตทำให้ราคาหุ้นปรับตัวดีขึ้นไปด้วย รายงานของ CNBC ระบุว่า หุ้น Disney เพิ่มขึ้นเกือบสองเท่าจากระดับต่ำสุดในการแพร่ระบาดที่ประมาณ 79 ดอลลาร์ต่อหุ้น เป็น 155 ดอลลาร์ ด้าน Netflix ยังคงเดินหน้าอย่างร้อนระอุ โดยเพิ่มขึ้น 71% จากระดับต่ำสุดในเดือนมีนาคมจนถึงต้นปี

แต่งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา หลังจากที่ Netflix คาดการณ์การเพิ่มสมาชิกในไตรมาสแรกที่น้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ประเมิน ทำให้นักลงทุนเริ่มไม่ประทับใจใน ‘วิดีโอสตรีมมิง’ หรืออย่างน้อยที่สุดก็สนใจน้อยลง

ขณะนี้ Netflix มีสมาชิกทั่วโลก 222 ล้านคน คาดการณ์ว่าจะมีการเพิ่มใหม่เพียง 2.5 ล้านในไตรมาสแรก หลังจากเพิ่ม 8.3 ล้านในไตรมาสที่ 4 สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้หุ้นของ Netflix ลดลง 37% ในเดือนนี้เพียงอย่างเดียว ส่วน Disney ได้ลดลง 11% ในเดือนมกราคม

ดูเผินๆ เหมือนแปลกที่การคาดการณ์รายไตรมาสของ Netflix ที่ต่ำเพียงครั้งเดียวจะทำให้นักลงทุนเริ่มลังเลในธุรกิจดังกล่าว แต่ความเป็นจริงนั้นถ้าการเติบโตของ Netflix ช้าลง นั่นอาจหมายความว่าตลาดสตรีมมิงของทั้งโลกกำลังเติบโตกว่าที่คาดการณ์ไว้อย่างมาก

ริช กรีนฟิลด์ นักวิเคราะห์ของ LightShed บอกกับ CNBC ว่า มูลค่าของอุตสาหกรรมการสตรีมจะเปลี่ยนไปอย่างมาก หาก Netflix สามารถมุ่งเน้นไปที่การขึ้นราคาและการลดการใช้จ่ายด้านเนื้อหาเพื่อผลกำไร แต่การลดการใช้จ่ายด้านเนื้อหาอาจทำให้จำนวนสมาชิกเพิ่มขึ้นช้าลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคู่แข่งรายใหม่เพิ่มการใช้จ่ายด้านเนื้อหาและการเข้าถึงทั่วโลกเพื่อสร้างฐานสมาชิก

Peacock ของ NBCUniversal ประกาศว่าจะเพิ่มการใช้จ่ายด้านเนื้อหาเป็น 2 เท่า เป็น 3 พันล้านดอลลาร์ ในปี 2022 และ 5 พันล้านดอลลาร์ ‘ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า’ ด้าน WarnerMedia วางแผนที่จะขยาย HBO Max ไปยังหลายประเทศทั่วโลกในปี 2022 ซึ่งปัจจุบัน HBO Max อยู่ใน 46 ประเทศ ยังน้อยอยู่มากเมื่อเทียบกับกว่า 190 ประเทศ สำหรับ Netflix

ไมเคิล นาธานสัน นักวิเคราะห์หุ้นของ MoffettNathanson กล่าวว่า หากคุณเริ่มชะลอการใช้จ่ายด้านเนื้อหาในขณะที่คนอื่นๆ กำลังทุ่มหมดหน้าตัก โดยธรรมชาติแล้วความเสี่ยงคือคุณจะได้รับความนิยมน้อยลง

รายงานของ CNBC ได้เผยถึงมุมมอง 4 เรื่อง ที่จะทำให้อุตสาหกรรมวิดีโอสตรีมมิงยังสามารถรักษาการเติบโตต่อไปได้

การรวมเนื้อหาจากหลายบริการ ซึ่งเป็นวิธีแก้ปัญหาที่ง่ายผ่านการเสนอตัวเลือกต่างๆ ที่ครอบคลุมบริการต่างๆ มากขึ้น

การรวมการสตรีมมิงกับสิทธิพิเศษอื่นๆ เช่น การให้ส่วนลดสำหรับสวนสนุกและสินค้าอื่นๆ ซึ่ง Disney กำลังพิจารณาถึงการหยิบวิธีนี้มาใช้อยู่

พ่วงด้วยผลิตภัณฑ์ของบริษัทอื่น ซึ่งบริการสตรีมมิงสามารถรวมเข้ากับสื่อดิจิทัลหรือการสมัครสมาชิกรายเดือนอื่นๆ ที่มีอยู่

เกมมิง โดยการเดินตามรอย Netflix ที่มุ่งไปเรื่องเกมมากขึ้น แต่สิ่งนี้ยากขึ้นเล็กน้อยหลังจาก Microsoft ตกลงซื้อ Activision Blizzard ด้วยเงินกว่า 6.9 หมื่นล้านดอลลาร์

อย่างไรก็ตาม ถ้าหนทางอื่นล้มเหลวก็ยังมี Metaverse ที่เป็นแผนสำรองที่อาจเป็นไปได้

อ้างอิง: