ฝรั่งเศสกลายเป็นประเทศที่ 6 ของโลกที่มียอดผู้ติดโควิดสะสมพุ่งสูงทะลุหลัก 10 ล้านรายแล้ว จากข้อมูลอย่างเป็นทางการที่เปิดเผยออกมาวานนี้ (1 มกราคม) ขณะที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายวันยังคงเพิ่มสูงเกิน 200,000 รายต่อเนื่องเป็นวันที่สี่
รายงานจากหน่วยงานสาธารณสุขของฝรั่งเศสระบุว่า วานนี้พบผู้ติดโควิดรายใหม่เพิ่มขึ้นมากกว่า 219,000 ราย ซึ่งถือเป็นตัวเลขสูงสุดอันดับ 2 หลังจากที่เมื่อวันศุกร์มียอดผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มสูงทุบสถิติกว่า 232,000 ราย ขณะที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อโดยเฉลี่ยในรอบ 7 วันที่ผ่านมา เพิ่มสูงสุดกว่า 157,000 ราย ซึ่งเพิ่มขึ้นเกือบ 5 เท่าภายในเวลาเพียง 1 เดือน
ก่อนหน้านี้ประธานาธิบดี เอ็มมานูเอล มาครง เตือนว่า สถานการณ์จะลำบากยิ่งขึ้นในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ซึ่งนับตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (3 มกราคม) รัฐบาลฝรั่งเศสจะบังคับให้ประชาชนในกลุ่มเด็กอายุตั้งแต่ 6 ขวบขึ้นไปต้องสวมหน้ากากอนามัยขณะอยู่ในที่สาธารณะ ซึ่งหลายเมืองใหญ่ เช่น ปารีสและลียง ต่างใช้มาตรการบังคับให้ประชาชนทุกคนต้องสวมหน้ากากอนามัยในที่สาธารณะ
สำหรับการระบาดของโควิดในฝรั่งเศสระลอกล่าสุด มีโควิดสายพันธุ์โอไมครอนเป็นสายพันธุ์หลัก ซึ่งในกรุงปารีสมีรายงานผู้ติดเชื้อโอไมครอนสูงถึง 71.4% ของผู้ติดเชื้อทั้งหมด แต่จำนวนผู้ติดเชื้อที่อาการหนักจนต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลยังค่อนข้างน้อย โดยช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีรายงานผู้ติดเชื้อเข้ารักษาในโรงพยาบาลเพิ่มขึ้น 96 ราย ส่งผลให้ยอดผู้ป่วยโควิดที่รักษาในโรงพยาบาลเพิ่มเป็นกว่า 18,800 ราย ซึ่งน้อยกว่าเกือบครึ่งเมื่อเทียบกับช่วงเดือนพฤศจิกายน ปี 2020 ที่มีผู้ป่วยโควิดในโรงพยาบาลสูงกว่า 33,400 ราย
ขณะที่อัตราการเสียชีวิตนั้นพบว่า วานนี้มีผู้ป่วยโควิดเสียชีวิตเพิ่มขึ้น 110 ราย ส่งผลให้จำนวนผู้เสียชีวิตสะสมเพิ่มเป็นกว่า 123,800 ราย สูงเป็นอันดับ 12 ของโลก และอัตราการเสียชีวิตโดยเฉลี่ยช่วง 7 วัน อยู่ที่ 186 ราย ซึ่งสูงที่สุดในรอบ 7 เดือน
ภาพ: Photo by Antonio Borga / Anadolu Agency via Getty Images
อ้างอิง:
