*หมายเหตุ: บทความนี้มีการเปิดเผยเนื้อหาบางส่วนของซีรีส์ Hawkeye*
สิ่งที่ทำให้เรารู้สึกสนใจใน Hawkeye ออริจินัลซีรีส์เรื่องล่าสุดจาก Marvel Studios หลังได้ชมตัวอย่างเต็ม ข้อแรกคือตัวละครหลักของเรื่องอย่าง คลินท์ บาร์ตัน (Jeremy Renner) และ เคท บิช็อป (Hailee Steinfeld) เป็นฮีโร่ที่มีความเป็นมนุษย์ธรรมดาที่สุด ไม่ได้มีพลังพิเศษเหลือล้นเหมือน วานดา (Elizabeth Olsen) ในซีรีส์ WandaVision
สองคือเนื้อเรื่องที่ไม่ได้หวือหวาแต่สามารถเข้าถึงผู้ชมได้ไม่ยาก ไม่เหมือนกับซีรีส์ Loki ที่พูดเรื่องจักรวาลมัลติเวิร์สสุดยิ่งใหญ่ (และแอบเข้าใจยากไปสักหน่อย) และข้อสุดท้าย ซีรีส์เรื่องนี้ค่อนข้างจะมีกลิ่นอายคล้ายๆ กับ Spider-Man Homecoming (2017) ในแง่ของการส่งไม้ต่อจากฮีโร่รุ่นแรกสู่ฮีโร่รุ่นต่อไป
ด้วยองค์ประกอบเหล่านี้ เราจึงค่อนข้างสนใจว่า Marvel Studios จะนำเสนอเรื่องราวของคลินท์และเคทออกมาในรูปแบบไหน
และหลังจากที่เราได้ชมซีรีส์ Hawkeye ทั้ง 6 ตอนจนจบ เราคิดว่าจุดเด่นของซีรีส์ที่เราชื่นชอบมากๆ คือการพาเราไปสำรวจเรื่องราวของคลินท์ในแง่มุมที่ไม่เคยถูกนำเสนอมาก่อน หลังจากที่เขาได้ผ่านพ้นสมรภูมิมาแล้วหลายครั้ง พร้อมทั้งการสูญเสียเพื่อนร่วมรบอย่าง นาตาชา (Scarlett Johansson) ไปต่อหน้าต่อตา ไล่เรียงตั้งแต่อาการหูหนวกที่เกิดจากการต่อสู้จนทำให้เขาต้องใส่เครื่องช่วยฟังอยู่ตลอดเวลา การแบกรับความรู้สึกที่ไม่สามารถช่วยเหลือเพื่อนของตัวเองเอาไว้ได้ ไปจนถึงแง่มุมของการเป็นพ่อที่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกับครอบครัวอย่างมีความสุขเหมือนคนธรรมดาทั่วไป
ซึ่งแง่มุมเหล่านี้ต่างส่งเสริมให้เนื้อหาของ Hawkeye เป็นมากกว่าแค่การปูให้เราได้ทำความรู้จักกับเคทที่จะมาเป็นฮอร์กอายคนต่อไป อีกทั้งการนำเสนอเรื่องราวของคลินท์ที่ลุ่มลึกมากกว่าเดิม ยังเปิดโอกาสให้ Jeremy Renner ได้โชว์ฝีไม้ลายมือทางการแสดงของตัวเองให้แฟนๆ MCU ได้สัมผัสมากกว่าผลงานเรื่องอื่นๆ อีกด้วย ทั้งแง่มุมความเป็นพ่อที่แสนอบอุ่น แง่มุมของความเจ็บปวดที่เขาต้องแบกรับ ไปจนถึงแง่มุมของการต้องมาเป็นคู่หูและครูฝึกสอนฮีโร่ของเคทโดยบังเอิญ ซึ่ง Jeremy Renner ก็สามารถนำเสนอแง่มุมอันลุ่มลึกของคลินท์ออกมาให้เราได้ทำความเข้าใจและมีความรู้สึกร่วมไปกับเขาได้เป็นอย่างดี
ตัดสลับมาที่ตัวละครใหม่อย่าง เคท เด็กสาวที่หลงใหลในตัวคลินท์ และจุดประกายให้เธอลุกขึ้นมาจับคันธนูด้วยความหวังว่าจะได้เป็นฮีโร่ เพื่อคอยปกป้องผู้คนเช่นเดียวกับเขา ส่วนที่เราชื่นชอบในตัวละครเคทมากๆ คือความเป็นเด็กสาวที่มาพร้อมกับพลังใจเต็มเปี่ยม เชื่อมั่นในตัวเอง กล้าเผชิญหน้ากับภัยอันตรายทุกรูปแบบ เพราะคิดว่าตัวเองจะสามารถควบคุมทุกๆ อย่างได้
เรียกได้ว่าคาแรกเตอร์ของเธอแทบจะเป็นขั้วตรงข้ามกับคลินท์โดยสิ้นเชิง และความแตกต่างตรงนี้เองที่ส่งให้ทุกฉากและทุกบทสนทนาระหว่างคลินท์และเคทต่างมีความหมายต่อทั้งสองตัวละครเสมอ ทั้งทางฝั่งของคลินท์ที่พยายามย้ำเตือนให้เคทได้ตระหนักถึงว่าเส้นทางของการเป็นฮีโร่ไม่ได้สวยงามอย่างที่เธอวาดฝัน ขณะเดียวกัน เคทก็เข้ามาช่วยให้คลินท์ได้ค้นพบคุณค่าบางอย่างของตัวเองที่ไม่เคยคิดถึงมาก่อน
การโคจรมาพบกันระหว่างเคทและคลินท์ที่มีนิสัยและความคิดแตกต่างกันอย่างสุดขั้ว จึงเปรียบเสมือนการเติมเต็มช่องว่างที่แต่ละคนขาดหายไป พร้อมกับการเรียนรู้และพัฒนาความสัมพันธ์ไปพร้อมกัน ซึ่งเราคิดว่าทั้งหมดนี้คือหัวใจสำคัญของซีรีส์ Hawkeye ที่สร้างรอยยิ้มและความประทับใจให้แก่ผู้ชมได้อย่างยอดเยี่ยม
อีกหนึ่งจุดเด่นที่เราชื่นชอบมากๆ และคิดว่าซีรีส์นำเสนอออกมาได้ดีแบบเกินคาด คือการปรากฏตัวของ เยเลนา (Florence Pugh) ผู้เป็นน้องสาวของนาตาชา ที่เราได้ทำความรู้จักเธอกันไปแล้วในภาพยนตร์เรื่อง Black Widow (2021)
ซึ่งเราเชื่อว่าแฟนๆ ของ MCU หลายคนน่าจะพอคาดเดากันได้พอสมควรแล้วว่า ตัวละครเยเลนาจะเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องกับซีรีส์เรื่องนี้อย่างไร แต่สิ่งที่เราไม่ได้คาดคิดจริงๆ คือเคมีที่เข้ากันอย่างลงตัวของเยเลนาและเคท ไม่ว่าจะเป็นการประชันฝีปากกันอย่างลื่นไหล ไปจนถึงฉากแอ็กชันของทั้งคู่ที่ออกแบบมาได้อย่างสนุกสนาน จนทำให้เรารู้สึกตื่นเต้นและคาดหวังมากๆ ว่าจะได้เห็นบทบาทของพวกเธอในฐานะสมาชิกทีม Avengers คนใหม่ที่ต้องมาจับคู่กันปกป้องโลกอีกครั้งในอนาคต
อย่างไรก็ตาม Hawkeye ก็มีจุดด้อยให้เรากล่าวถึงอยู่บ้าง คือการดำเนินเรื่องในช่วง 3 ตอนแรกของเรื่องที่ค่อนข้างจะเนิบช้าไปเสียหน่อย มีอยู่หลายฉากที่เรารู้สึกว่าสามารถรวบรัดตัดตอนหรือทำให้กระชับกว่าเดิมได้ รวมถึงการเปิดเผยปมปัญหาหลายๆ อย่างของเรื่องที่ยังคงคลุมเครืออยู่พอสมควร
ส่วนประเด็นที่เราค่อนข้างรู้สึกเฉยๆ คือการปรากฏตัวของตัวร้ายหลักอย่าง คิงพิน (Vincent D’Onofrio) อาจจะด้วยความที่เราคือหนึ่งในคนที่ไม่ได้ติดตามซีรีส์ Daredevil (2015) มาก่อน เราจึงไม่ได้รู้สึกเชื่อมโยงและตื่นเต้นกับการปรากฏตัวของคิงพินเท่าไรนัก ซึ่งหากตัวซีรีส์เลือกจะปูเรื่องราวคร่าวๆ ของตัวละครตัวนี้ให้เราได้ทำความรู้จักเขาอีกสักหน่อย ก็อาจจะช่วยให้เราสามารถติดตามเรื่องราวของเขาได้สนุกสนานมากกว่านี้
แม้ว่าตัวซีรีส์อาจจะมีจุดด้อยที่ทำให้เรารู้สึกเนือยๆ อยู่บ้างในช่วงแรก แต่หากมองในภาพรวมแล้ว Hawkeye นับว่าเป็นซีรีส์ที่พาเราไปสำรวจแง่มุมความรู้สึกของคลินท์อย่างครบถ้วนทุกมิติ อีกทั้งยังเป็นการปูทางให้เราได้รู้จักกับเคทได้อย่างน่าจดจำ และยังกระตุ้นให้เราอยากที่จะติดตามต่อไปอีกด้วยว่าเธอจะมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเรื่องราวอันยิ่งใหญ่ของ MCU ต่อไปอย่างไร
สามารถรับชมซีรีส์ Hawkeye ทั้ง 6 ตอนได้แล้วที่ Disney Plus Hotstar
รับชมตัวอย่างได้ที่นี่
ภาพ: Marvel Studios
