H&M กำลังระดมไอเดียผลิต ‘เสื้อผ้าอัจฉริยะ’ ที่สามารถตรวจสอบอัตราการเต้นของหัวใจ หรือระดับความชุ่มชื้นของร่างกายได้ ตอบโจทย์ยุคสมัยแห่งอนาคต

ในปัจจุบันผู้ผลิตเสื้อผ้าต่างเผชิญกับปัญหาความซับซ้อนของซัพพลายเชนและการกดดันจากความตื่นตัวด้านสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ดังนั้นหัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีของ H&M อย่าง อลัน โบห์เม จึงกำลังพยายามสร้างเสื้อผ้าอัจฉริยะ หรือ Smart Clothing

Bloomberg รายงานว่า โบห์เมกำลังหาวิธีที่จะทำให้เสื้อผ้าของ H&M สามารถตรวจสอบอัตราการเต้นของหัวใจ หรือระดับความชุ่มชื้นของร่างกายได้ รวมถึงหาวิธีที่จะนำเทคโนโลยี AI มาใช้ เพื่อช่วยลดขนาดซัพพลายเชน ซึ่งอาจลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของบริษัทได้ โดยในเดือนกันยายน H&M ไม่สามารถผลิตสินค้าได้ทันต่อความต้องการของลูกค้า เนื่องจากปัญหาความล่าช้าและการหยุดชะงักของซัพพลายเชน

การที่ H&M ให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีอย่างหนักในขณะนี้ เนื่องจากผู้คนเปลี่ยนพฤติกรรมจากการช้อปปิ้งที่ร้านค้าทั่วไปมาเป็นการช้อปปิ้งออนไลน์มากขึ้น และแบรนด์ฟาสต์แฟชั่นต่างๆ กำลังถูกวิพากษ์วิจารณ์เรื่องผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในเชิงลบอยู่เรื่อยๆ ในขณะนี้

บริษัทเสื้อผ้าต่างๆ กำลังทดลองเกี่ยวกับการผสานเทคโนโลยีเข้ากับเสื้อผ้า ซึ่งจนถึงตอนนี้ก็ยังพยายามพัฒนาอยู่เรื่อยๆ เพื่อให้ได้ยอดขายตามที่ตั้งเป้าหมายไว้

อย่างแบรนด์ Levi’s จับมือร่วมกับ Google เพื่อผลิตเสื้อแจ็กเก็ตที่มีปลอกแขนบลูทูธที่สามารถควบคุมสมาร์ทโฟนด้วยท่าทางต่างๆ ได้ ในขณะที่แบรนด์ Nadi X ผลิตกางเกงโยคะที่ใช้การสั่นเพื่อช่วยกำหนดท่าทาง และช่วยพัฒนาเทคนิคโยคะของผู้สวมใส่ได้

นอกจากนั้น H&M เองก็ร่วมมือกับบริษัทเทคโนโลยีแฟชั่นอย่าง Boltware ในช่วงที่มีการระบาดใหญ่ เพื่อสร้างแจ็กเก็ตยีนส์ที่สามารถเลียนแบบการกอดได้ และได้เปิดให้ผู้บริโภคโหวตว่าไอเดียนี้ H&M ควรเดินหน้าพัฒนาหรือไม่ แต่สุดท้ายความต้องการของผู้บริโภคก็มีไม่มากพอที่จะจำหน่ายแจ็กเก็ตนี้ได้

โดยในตลาดอุปกรณ์สวมใส่ล้ำสมัย ยักษ์ใหญ่อย่าง Apple Inc. ถือว่านำโด่งบริษัทอื่นๆ อยู่ อย่างสมาร์ทวอทช์ของ Apple ถือเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์สวมใส่ที่เติบโตเร็วที่สุด

โบห์เมตระหนักดีว่าวิสัยทัศน์ในการนำผลิตภัณฑ์ของบริษัทผสานเข้ากับเทคโนโลยีต่างๆ ของเขาอาจจะต้องเผชิญกับอุปสรรคอีกมากมาย อย่างการผลิตเสื้อผ้าที่ซิงก์กับ 5G ได้ จะเป็นอุปสรรคอย่างมากในประเทศที่มีโครงสร้างพื้นฐานของ 5G ที่ไม่ครอบคลุม

“ในตอนนี้เรามีวัสดุ เทคโนโลยีต่างๆ ครบทั้งหมดเเล้ว เหลือแค่ไอเดียที่จะนำสิ่งต่างๆ ที่เรามีมาผสานกันเป็นสินค้าที่มีความแตกต่างและยังไม่มีใครสร้างขึ้นมา” โบห์เมกล่าว

โดยในด้านสิ่งแวดล้อม H&M ได้ทำงานร่วมกับสถาบันวิจัยสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มแห่งฮ่องกง เพื่อสร้างเครื่องจักรที่สามารถแยกเสื้อผ้าที่ไม่ต้องการ และนำมาผลิตอีกรอบเป็นสินค้าใหม่ เพื่อให้การผลิตเสื้อผ้ามีความยั่งยืนยิ่งขึ้น

อุตสาหกรรมแฟชั่นต้องเผชิญกับการเรียกร้องและตระหนักถึงปัญหาสภาพภูมิอากาศอย่างหนัก ตามรายงานของ Global Fashion Agenda ในปี 2018 อุตสาหกรรมแฟชั่นปล่อยก๊าซเรือนกระจกถึง 4% จากทั้งหมดที่ถูกปล่อยออกมาโดยมนุษย์ หากมองว่าอุตสาหกรรมแฟชั่นเป็นประเทศๆ หนึ่ง ก็ถือว่าเป็นประเทศที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากเป็นอันดับ 4 ของโลกรองจากจีน สหรัฐอเมริกา และอินเดียเลยทีเดียว

อ้างอิง: