×

เมื่อโลกแฟชั่นของ Prada และงานกำกับสไตล์ Wes Anderson เดินทางมาบรรจบกัน

โดย Nan Tohch
12.06.2017
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

8 Mins. Read
  • Bar Luce ที่ตั้งอยู่ใน Fondazione Prada พิพิธภัณฑ์ศิลปะสมัยใหม่ของกรุงมิลาน ออกแบบโดย เวส แอนเดอร์สัน ผู้กำกับภาพยนตร์ชาวอเมริกัน เขาควบคุมการออกแบบทั้งหมด ตั้งแต่การเลือกเฟอร์นิเจอร์ไปจนถึงรายละเอียดเล็กน้อยอย่างซองน้ำตาล
  • เวส แอนเดอร์สัน และ Prada เคยร่วมงานกันมาก่อนในภาพยนตร์สั้น Castello Cavalcanti และแคมเปญน้ำหอม Prada Candy L’Eau fragrance
  • ทั้ง Prada และแอนเดอร์สัน ดึงแรงบันดาลใจมาจากสิ่งของและเสื้อผ้า รวมไปถึงโทนสีที่ให้อารมณ์วินเทจ ผลงานของทั้งสองมีกลิ่นอายของความโหยหาอดีต และบางครั้งก็เต็มไปด้วยความขี้เล่นเชิงประชดประชันและตลกร้าย

Bar Luce ใน Fondazione Prada

Photo: Prada

 

     ปฏิเสธไม่ได้ว่าโลกของแฟชั่นและภาพยนตร์มักจะเดินไปข้างๆ กันเสมอ นอกจากดีไซเนอร์จะดึงแรงบันดาลใจมาจากหนังเรื่องต่างๆ แล้ว การคัดเลือกเครื่องแต่งกายให้เหมาะสมกับบท ก็มีผลต่อการเล่าเรื่องของภาพยนตร์เช่นกัน

     ทุกวันนี้เราต่างรู้จัก Prada แบรนด์ไฮเอนด์สัญชาติอิตาลีที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกันเป็นอย่างดี Prada เริ่มต้นมาจากธุรกิจเครื่องหนังของ มาริโอ ปราด้า (Mario Prada) ในปี ค.ศ. 1913 จนมาถึงยุคของ มิวเซีย ปราด้า (Miuccia Prada) หลานสาวคนสุดท้องของตระกูลที่เข้ามาสานต่อธุรกิจของครอบครัวในปี ค.ศ. 1978 ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา Prada ได้กลายเป็นแบรนด์ขวัญใจแฟชั่นนิสต้าและบรรณาธิการนิตยสารแฟชั่นทั่วโลก

     นอกจากเสื้อผ้าและเครื่องหนังแล้ว Prada ยังชนะใจคนรักศิลปะทั่วโลกด้วยการเปิดตัว Fondazione Prada พิพิธภัณฑ์ศิลปะสมัยใหม่ในกรุงมิลาน โดยในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ยังเป็นที่ตั้งของ Bar Luce คาเฟ่ซึ่งออกแบบโดย เวส แอนเดอร์สัน (Wes Anderson) ผู้กำกับภาพยนตร์ชาวอเมริกัน เปิดให้บริการในปี ค.ศ. 2015

     มิวเซีย ปราด้า ให้สัมภาษณ์ว่า “ฉันอยากทำบาร์ใน Fondazione Prada และรู้ทันทีว่าผู้กำกับภาพยนตร์ควรจะเป็นคนออกแบบโปรเจกต์นี้ ทุกคนคิดว่าฉันเสียสติไปแล้ว แต่เวลาคนอื่นๆ บอกว่าบ้า ฉันจะรู้เลยว่ากำลังมีไอเดียที่น่าสนใจอยู่ในมือ”

 

เจสัน ชวาตซ์แมน และเจียดา โคลาแกรนด์เด ในภาพยนตร์สั้น Castello Cavalcanti

Photo: Prada

 

การพบกันครั้งแรก

     ในปี ค.ศ. 2013 เวส แอนเดอร์สัน กำกับหนังสั้น 8 นาทีชื่อว่า Castello Cavalcanti ให้กับ Prada ซึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับนักแข่งรถ รับบทโดย เจสัน ชวาตซ์แมน (Jason Schwartzman) นอกจากหนังสั้นชิ้นนี้แล้ว แอนเดอร์สันยังได้กำกับแคมเปญน้ำหอม Prada Candy L’Eau fragrance ร่วมกับโรมัน คอปโปลา ซึ่งเป็นทั้งเพื่อนสนิทและผู้ร่วมงานของเขา ทั้งสองคนได้สร้างปารีสในมุมมองใหม่ นำแสดงโดย เลอา เซดู (Léa Seydoux) ผู้รับบทเป็น Candy สาวปารีเซียงเสน่ห์แรง โดยในโปรเจกต์ทั้งสอง แอนเดอร์สันได้นำเอาเอกลักษณ์และสไตล์การกำกับมาปรับให้เข้ากับตัวตนของแบรนด์ Prada ได้เป็นอย่างดี

 

แคมเปญน้ำหอม Prada Candy L’Eau fragrance

Photo: Prada

 

     ทั้งสองต่างมีความคล้ายคลึงกัน ไม่ว่าจะเป็นสไตล์ ผลงาน หรือกระทั่งแรงบันดาลใจ ซึ่งทั้ง Prada และแอนเดอร์สันเองได้ดึงมาจากเครื่องแต่งกาย การตกแต่งบ้าน และโทนสีแบบวินเทจที่มีความ Nostalgia หรือการคำนึงถึงความทรงจำอันสวยงามในอดีต ชิ้นงานของพวกเขามีความขี้เล่นเชิงประชดประชันและตลกร้ายในบางครั้ง เห็นได้จากคอนเซปต์ Ugly Chic ซึ่งเป็นเอกลักษณ์โดดเด่นของแบรนด์ Prada และฉากในภาพยนตร์ของแอนเดอร์สัน ซึ่งหลายๆ ฉากนั้นแสดงถึงสิ่งที่น่าเศร้า แต่เขาสื่อมันออกมาในอีกอารมณ์แทน

 

ตัวละคร ซูซี บิช็อป ในภาพยนตร์ Moonrise Kingdom

Photo: Focus Features

Prada Womenswear Resort 2018

Photo: Prada

 

Resort 2018 x Moonrise Kingdom

     คอลเล็กชันล่าสุด Prada Resort 2018 ทั้งในเชิงเสื้อผ้า รวมไปถึงการจัดเวที เราจะเห็นการมาบรรจบกันของโลกแห่งความจริงและจินตนาการ โดย Prada เลือกใช้โทนสีพื้นผ้าไนลอนสีดำอันเป็นเอกลักษณ์ ตัดกับผ้าออแกนซาบางเบาสีพาสเทล รวมไปถึงลายดอกไม้และกระต่ายด้วยเส้นโค้งเว้าชวนฝัน ซึ่งการสไตลิ่งบนรันเวย์ครั้งนี้ สื่อถึงการก้าวผ่านจากวัยเด็กสาวไปสู่การเป็นผู้หญิงเต็มตัว ปัจจัยนี้ทำให้เรานึกถึงภาพยนตร์ของแอนเดอร์สันเรื่อง Moonrise Kingdom (2012) ที่พูดถึงการก้าวข้ามผ่านของเด็กหนุ่มและสาวน้อยที่เลือกหลีกหนีชีวิตประจำวัน ด้วยการหนีออกจากบ้านไปตั้งแคมป์เพียงลำพัง ในภาพยนตร์เราจะเห็นการมิกซ์แอนแมตช์ที่คาดผมขนนกแบบอินเดียแดงและการถักเปีย รวมไปถึงการใส่ถุงเท้ายาวถึงต้นขาให้อารมณ์ของเด็กสาวไร้เดียงสา ซึ่งเป็นคอนเซปต์การสไตลิ่งบนรันเวย์ Resort 2018 ของ Prada อย่างเห็นได้ชัด

 

ลุค วิลสัน และกวินเน็ธ พัลโทรว์ ในภาพยนตร์ The Royal Tenenbaums

Photo: Buena Vista Pictures

Prada Menswear Spring 2013

Photo: Prada

 

ครอบครัว Tenenbaums

     The Royal Tenenbaums ในปี 2001 แอนเดอร์สันเล่าเรื่องครอบครัว Tenenbaums ของสามพี่น้อง แชส มาโกต์ และริชชี ที่มีปมมาตั้งแต่เด็ก คอสตูมตัวละครมาโกต์และริชชีที่แสดงโดย ลุค วิลสัน (Luke Wilson) และกวินเน็ธ พัลโทรว์ (Gwyneth Paltrow) ทำให้เรานึกถึงคอลเล็กชัน Spring/Summer 2013 ของ Prada ที่มีโอเวอร์โค้ตขนสัตว์ ชุดสูท และที่คาดหัวเทนนิส โดยเฉพาะลุคของนางแบบ Magdalena Frackowiak ที่เป็นเหมือนการผสมผสานของทั้งสองตัวละครเข้าด้วยกัน

 

ภาพยนตร์ The Grand Budapest Hotel  

Photo: Fox Searchlight Pictures

Prada Menswear Fall/Winter 2012

Photo: Prada

 

The Grand Budapest Hotel

     ย้อนกลับไปอีกหนึ่งคอลเล็กชันที่น่าจดจำของ Prada คือคอลเล็กชัน Fall/Winter 2012 ที่มีการเชิญดาราฮอลลีวูดชื่อดังอย่าง แกรี โอลด์แมน, เอเดรียน โบรดี และวิลเลม เดโฟ มาเดินแบบในช่วง Finale คอลเล็กชันนี้ทำให้นึกถึงภาพยนตร์ของแอนเดอร์สันเรื่อง The Grand Budapest Hotel ในปี 2014 ที่เห็นได้จากการจัดเวทีเดินแบบในห้องโถง และมีกลิ่นอายความเรโทรเหมือนฉากของโรงแรมในภาพยนตร์ The Grand Budapest Hotelแถมวิลเลม เดโฟ และเอเดรียน โบรดีเองก็แสดงในภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วย

     มิวเซียยังได้กล่าวว่า คอลเล็กชัน Fall/Winter 2012 สื่อถึงการล้อเลียนบทบาทและการแสดงอำนาจของเพศชาย ซึ่งหากเทียบกับภาพยนตร์เรื่อง The Grand Budapest Hotel เป็นการสะท้อนผ่านตัวละคร กุสตาฟ ที่นำแสดงโดย เรล์ฟ ไฟนส์ ตัวละครกุสตาฟเป็นเจ้าหน้าที่ของโรงแรม ที่มีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับหญิงชราที่มาเข้าพัก โดยเขาต้องสวมหน้ากากเป็นคนอีกคนหนึ่งและแสดงอำนาจของเพศชายอยู่ตลอดเวลา ซึ่งลุคชุดสูท Coattail หางยาวสีม่วงทรงยุค 1930 ของตัวละครกุสตาฟ ก็มีความคล้ายคลึงกับเหล่าชุดสูทที่ Prada เน้นบนรันเวย์นี้

 

มิวเซีย ปราด้า

เวส แอนเดอร์สัน

 

     เห็นได้ว่าการที่โลกของ Prada และเวส แอนเดอร์สัน มาบรรจบกันนั้นไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ผลงานของทั้งสองนั้นมีนัยยะแฝงในการหลบหนีโลกแห่งความเป็นจริง แล้วหลุดเข้าไปอยู่ในโลกจินตนาการของแอนเดอร์สัน และใช้ชีวิตในเสื้อผ้าของ Prada ทั้งสองได้แหกกฎการออกแบบเสื้อผ้า และการสร้างภาพยนตร์ได้อย่างมีชั้นเชิง เห็นได้จากผลงานที่มักสร้างความประหลาดใจและประทับใจให้ผู้ชมเสมอมา

     ตอนนี้เราก็ได้แค่รอให้วันหนึ่ง แอนเดอร์สันตัดสินใจยกหูโทรศัพท์ และขอให้มิวเชียมาช่วยทำเสื้อผ้าในภาพยนตร์ของเขา

 

อ้างอิง:

 

 

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X