วันนี้ (5 ตุลาคม) อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงความพร้อมในศึกเลือกตั้งที่จะมาถึง โดยในส่วนของพรรคภูมิใจไทยมีรายชื่อตนเองเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีนั้น เป็นเรื่องปกติที่พรรคการเมืองจะต้องเสนอชื่อหัวหน้าพรรคเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีเป็นลำดับแรก แต่ในอนาคตจะเป็นอย่างไรค่อยว่ากัน ซึ่งตนมองว่าไม่สำคัญ แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือการทำงานที่เคยให้สัญญาไว้กับประชาชน
อนุทินระบุว่า สิ่งสำคัญขณะนี้คือการติดตามงานและทำสิ่งที่เป็นประโยชน์กับบ้านเมือง และเตรียมนโยบายสำหรับการเลือกตั้ง ซึ่งมั่นใจว่าภายใน 2 ปีนี้จะเกิดการเลือกตั้งอย่างแน่นอน ดังนั้นพรรคภูมิใจไทยต้องเตรียมความพร้อมรองรับการเปลี่ยนแปลงในทุกสถานการณ์ และการที่ ส.ส. ลงพื้นที่ถือเป็นปกติอยู่แล้ว ในฐานะหัวหน้าพรรคย้ำว่าทุกคนต้องไม่ทิ้งพื้นที่เป็นอันขาด ไม่ว่าจะเกิดสถานการณ์ใดก็ตาม โดยเฉพาะในช่วงนี้ที่เกิดน้ำท่วม
ส่วนที่มีการประเมินว่าจะได้ ส.ส. เพิ่มมากขึ้นหรือไม่นั้น อนุทินยืนยันว่าตนจะทำให้ดีที่สุด เพราะยอมรับการตัดสินใจของประชาชน
อนุทินยังปฏิเสธตอบคำถามกรณีจะมีการยุบสภาหรือนายกรัฐมนตรีลาออกในช่วงนี้หรือไม่ โดยชี้นิ้วไปที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล พร้อมกันนี้มองว่าการเคลื่อนไหวของพรรคการเมืองในขณะนี้ถือว่าเป็นเรื่องธรรมดาในสถานการณ์บ้านเมืองที่เป็นปัญหา พรรคการเมืองต้องทำเพื่อประชาชนอยู่แล้ว คิดเป็นอย่างอื่นไม่ได้
.
อนุทินมั่นใจว่าผลงานของกระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงอื่นๆ โดยพรรคภูมิใจไทยเป็นที่ประจักษ์ของประชาชน เพราะมีหลายเรื่องที่ประสบความสำเร็จและรวดเร็วกว่าแผน เหลือเพียงเรื่องการท่องเที่ยว การเปิดประเทศให้เร็วและปลอดภัยที่สุด เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ต้องดำเนินการเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ
ส่วนกรณีที่ฝ่ายค้านยื่นคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลในการบริหารจัดการสถานการณ์โควิดนั้น อนุทินกล่าวด้วยความมั่นใจว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมาคณะรัฐมนตรีทำในสิ่งที่ถูกต้อง อยู่ภายใต้กฎกติกา และส่วนตัวไม่กังวลใดๆ ทั้งสิ้น
พร้อมกันนี้อนุทินยังปฏิเสธตอบคำถามการเลือกตั้งในระบบไพรมารีโหวต ที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าจะมีคู่แข่งระหว่างพรรคเพื่อไทยและพรรคพลังประชารัฐ ก็ให้สังเกตกันไป พรรคภูมิใจไทยขออยู่เงียบๆ และทำหน้าที่แต่ละคนให้ดีที่สุด ย้ำในพรรคมีความสามัคคี ไม่มีแตกแยก มีความเป็นเอกภาพ
