วานนี้ (2 ตุลาคม) ประชาชนชาวบราซิลรวมตัวประท้วงครั้งใหญ่ในกว่า 160 เมืองทั่วประเทศ เรียกร้องให้ ฌาอีร์ โบลโซนารู ประธานาธิบดีบราซิล ลาออกจากตำแหน่ง หลังพัวพันกับการทุจริตวัคซีน บริหารประเทศผิดพลาด โดยเฉพาะวิกฤตโควิดที่คร่าชีวิตผู้คนในบราซิลไปแล้วเกือบ 6 แสนราย มีผู้ติดเชื้อสะสมสูงกว่า 21.45 ล้านรายทั่วประเทศ มากที่สุดเป็นอันดับที่ 3 ของโลก รองจากสหรัฐอเมริกาและอินเดีย
การประท้วงดังกล่าวได้รับการสนับสนุนจากพรรคฝ่ายค้านและสหภาพการค้า ปลุกกระแสต่อต้านโบลโซนารูขึ้นมาอย่างต่อเนื่องตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา มีการยื่นคำร้องให้มีการพิจารณาถอดถอนโบลโซนารูออกจากตำแหน่งผู้นำประเทศ ขณะที่ศาลสูงบราซิลเองก็เริ่มต้นการสืบสวนสอบสวน ก่อนหน้าที่บราซิลจะจัดการเลือกตั้งทั่วไปขึ้นในเดือนตุลาคม 2022
วัลโด โอลิเวียรา หนึ่งในชาวบราซิลที่ร่วมแสดงจุดยืนเรียกร้องให้โบลโซนารูก้าวลงจากตำแหน่ง ระบุว่า “ประธานาธิบดีรายนี้คือตัวแทนที่สะท้อนถึงทุกสิ่งทุกอย่างที่ถอยหลังกลับในประชาคมโลก มีความหิวโหย ความยากจน การคอร์รัปชัน และพวกเราออกมาที่นี่วันนี้เพื่อปกป้องประชาธิปไตย”
โดยในขณะนี้ โบลโซนารูกำลังเผชิญหน้ากับวิกฤตทางการเมืองครั้งใหญ่ ส่งผลให้ระดับคะแนนความนิยมในตัวเขาลดต่ำลงอย่างมาก ผลสำรวจล่าสุดของ Atlas Institute ชี้ว่า ประชาชนชาวบราซิลราว 61% ที่ตอบผลสำรวจแสดงความคิดเห็น มองว่า ผลงานรัฐบาลบราซิลในขณะนี้อยู่ในเกณฑ์ไม่ดีหรือเลวร้ายมากๆ ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 21% จากช่วงที่โบลโซนารูเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีบราซิลครั้งแรกในเดือนมกราคม 2019
ภาพ: Mateus Bonomi / Anadolu Agency via Getty Images
อ้างอิง:
