หลังจากที่เป็นประเด็นร้อนแรงในโลกฮอลลีวูด เมื่อ Scarlett Johansson ฟ้องร้องบริษัท Disney ด้วยข้อหาผิดสัญญา โดยปล่อยภาพยนตร์ Black Widow บนแแพลตฟอร์ม Disney+ ผ่านบริการ Premier Access ออกมาวันเดียวกับที่หนังได้ฉายในโรงภาพยนตร์ และส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อรายได้ของเธอ
ล่าสุดพวกเขาก็ประกาศยุติการฟ้องร้องกันได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และดูเหมือนว่าทั้งสองฝ่ายจะปรับความเข้าใจพร้อมกับหาทางออกร่วมกันได้สำเร็จไปด้วยดี หลังจากที่มีการตอบโต้กันไปมาผ่านสื่อด้วยถ้อยคำรุนแรงอยู่สักพักใหญ่ เพราะ Scarlett Johansson ได้มีการแถลงการณ์ว่าเธอรู้สึกยินดีที่พวกเขาสามารถยอมรับในความเห็นที่แตกต่างของกันและกันได้
“ฉันภูมิใจในผลงานที่เราทำร่วมกันมาหลายปีเป็นอย่างมาก และมีความสุขเหลือล้นกับความสัมพันธ์อันแสนพิเศษกับทีมงาน ฉันตั้งตารอที่จะทำงานด้วยกันต่อไปในอีกหลายปีข้างหน้า”
ส่วน Alan Bergman ประธานของ Disney Studios Content ก็แถลงว่า เขายินดีเป็นอย่างมากที่ทั้งสองหาข้อตกลงร่วมกันได้ และยังกล่าวชื่นชม Scarlett Johansson สำหรับการทุ่มเทให้กับการสร้างหนังของ Marvel Cinematic Universe และเขาเองก็ตั้งตารอที่จะทำงานกับนางเอกคนดังต่อไปอีกหลายโปรเจกต์ในอนาคตเช่นกัน ซึ่งนั่นรวมไปถึงภาพยนตร์เรื่อง Tower of Terrer ที่ก่อนหน้านี้หลายคนต่างก็คาดเดากันว่าพวกเขาได้พับโปรเจกต์นี้ไปเรียบร้อยแล้วระหว่างที่เกิดการฟ้องร้องขึ้น
อย่างไรก็ตาม โลกแห่งอุตสาหกรรมภาพยนตร์คงต้องปรับตัวกันไปอีกพักใหญ่หลังยุคโควิด กว่าที่จะเจอจุดที่ลงตัวและยุติธรรมสำหรับทุกฝ่ายทั้งแพลตฟอร์มสตรีมมิง โรงภาพยนตร์ ทีมงานผู้สร้างหนังและนักแสดง
ภาพ: Steve Granitz/WireImage
อ้างอิง:
